เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “ของใช้ภายในบ้าน” เหล่านี้มีอายุการใช้งาน แม้มันจะไม่พังก็เถอะ แต่เมื่อถึงเวลาก็ควรจะต้องเปลี่ยน เพราะมันจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และส่งผลต่อสุขภาพในที่สุด หากยังทู่ซี้ใช้มันต่อไป
.
1. แปรงสีฟัน
.
นอกจากจะต้องเปลี่ยนแปรงทุกๆ 3 เดือน แล้ว ถ้าเป็นไปได้หลังใช้งานเสร็จเรียบร้อย ควรล้างน้ำร้อนด้วย
.
2. ที่นอน
ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณ เป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง หรือช่วงเวลาแห่งการทรมานร่างกายในอีกรูปแบบหนึ่ง
และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรเปลี่ยนที่นอนทุก 9 ปี หรือ 10 ปี ไม่ใช่จนกว่ามันจะพัง อย่างที่หลายคนเข้าใจ
.
3. เขียงพลาสติก
.
ความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จะปรากฏหลังจากผ่านการใช้งานไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ คราบที่จารึกลงบนเขียง อาจทำให้คุณแม่บ้านรู้สึกว่ามันไม่สะอาดเท่าที่ควร ซึ่งทางออกง่ายๆ ของเรื่องนี้ก็คือ จับเขียงที่น่าสงสารนั่น แช่ในน้ำร้อนหรือใช้สารฟอกขาว
วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Salmonella และ Escherichia coli ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้ทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อยที่สุด
.
4. หมอน
.
ถึงแม้จะมีปลอกหมอนที่ป้องกันเหงื่อและสิ่งสกปรกอยู่แล้ว แต่หมอนควรได้รับการทำความสะอาดเช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ สามารถซักมันได้อย่างสบายๆ อย่างไรก็ดีแพทย์ก็ได้แนะนำว่า ควรเปลี่ยนมันอย่างช้าที่สุดคือทุกๆ 2 ปี
.
5. ฟองน้ำล้างจาน
.
หลังใช้มันไปแค่เพียงครั้งเดียว ฟองน้ำจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคทันที วิธีที่ดีที่สุดคือนำไปใส่ไมโครเวฟและจัดการเวฟด้วยความอุณหภูมิสูงเป็นเวลา 2 นาทีหลังจากการใช้งาน และเมื่อไรที่เริ่มได้กลิ่นทะแม่งๆ จัดการโยนมันลงถังขยะได้เลย อย่าไปเสียดาย
.
6. แปรงล้างห้องน้ำ
.
ถือเป็นของใช้ภายในบ้านที่ถ้าไม่พังก็ไม่เปลี่ยนใหม่อีกชิ้น ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า จะพังหรือไม่พังก็ต้องเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
.
7. ถังดับเพลิง
.
อย่าประมาทกับไฟเป็นอันขาด เพราะอย่างที่รู้กันว่าโจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว เพราะงั้นเปลี่ยนถังดับเพลิงทุกๆ 10 ปี หรือตรวจเช็คการใช้งานซัก 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง เพื่อปกป้องเหตุไม่คาดฝัน
.
ที่มา : emgn.com , spokedark