เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในประเทศฟิลิปปินส์ จากการที่ตำรวจออกมาเซอร์ไพรส์ประชาชนด้วยการแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะเฉลยภายหลังว่าทั้งหมดเป็นแค่การล้อเล่น
ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ชาวฟิลิปปินส์จะหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีการประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างหนักหน่วง ของประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต (Rodrigo Duterte) และเจ้าหน้าที่มักมีการสร้างหลักฐานในการจับกุมประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายต่อหลายครั้ง
การแกล้งกันครั้งนี้เกิดขึ้นในเมืองเซบู ตอนกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อพนักงานปั๊มน้ำมัน 2 คนต้องตกใจอย่างสุดขีด ที่รู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมในข้อหาพยายามฆ่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พนักงานสาวหนึ่งในนั้นกลัวถึงขั้นร้องไห้ออกมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเฉลยว่า แท้จริงเป็นแค่การแกล้งกันเล่น และได้ร้องเพลงสุขสันต์วันคริสต์มาส พร้อมมอบของขวัญให้ปิดท้าย
การเล่นใหญ่ของตำรวจเกิดขึ้นจากความพยายามที่อยากจะขอบคุณคนใช้แรงงานในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก รวมถึงการมอบของขวัญและความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนงานเหล่านี้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
แต่ทว่า ความปราถนาดีกลับแปรเปลี่ยนเป็นการจุดประกายความโกรธแค้นแทน
“ฉันกลัวกุญแจมือนั่นมากเลย” สาวปั๊มคนหนึ่งพูดขึ้นมาในคลิปวีดีโอที่มีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจเมืองเซบู ระหว่างที่ถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา และกำลังควบคุมตัวไปที่รถ ก่อนที่ตำรวจจะพูดออกมาว่า ทั้งหมดนี้เป็นแค่การแกล้งกันเล่นเฉย ๆ
“มันไม่ใช่เรื่องตลก” เอเดร โอลาเลีย (Edre Olalia) ประธานทนายความของสหภาพประชาชนแห่งชาติกล่าวกับ VICE World News
พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนัก ที่แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงาน สิ่งเหล่านี้คือความตลกร้าย ที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้กับประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องเกิดความหวาดกลัว
ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของฟิลิปปินส์ ก็ออกมากล่าวว่า เป็นการแสดงอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่จำเป็น และการออกหมายจับเป็นกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ขัดต่อหลักนิติธรรม การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องน่าขำขัน
ในขณะที่ โฮเซฟิโน ลิแกน (Josefino Ligan) ผู้กำกับสถานีตำรวจเมืองเซบูก็ออกมาปกป้องการแกล้งกันดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำโครงการดังกล่าวต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากธุรกิจห้างร้านของเป้าหมายที่ตำรวจเข้าไปแกล้ง
“ก่อนทำการแกล้ง เราประเมินสภาวะทางสุขภาพของเป้าหมายอย่างรอบคอบที่สุด”
ในส่วนของคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาตำรวจ ก็แสดงความเห็นไว้ว่า เจตนาของโครงการเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์
“เราแค่อยากจะมอบประสบการณ์ความสุข ที่น่าจดจำไม่รู้ลืมให้กับพวกเขาเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ยังไม่มีการออกแถลงการณ์ต่อประเด็นที่เกิดขึ้น
คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น >> ที่นี่
ที่มา : Itug-an NI CD , vice