ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประเทศอินโดนีเซียต้องพบกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในกรุงจาร์กาตา เมืองหลวงของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 60 ราย และประชาชนกว่า 170,000 คนต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว
จากภัยภิบัติในครั้งนี้ ทำให้ถนนหลายสายถูกตัดขาด ทางการต้องนำเฮลิคอปเตอร์บรรทุกสิ่งของมาแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย แต่ก็มีอุปสรรคสำคัญคือ มีพื้นที่เพียงไม่กี่แห่งที่สามารถใช้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ เนื่องจากดินถล่ม
และเมื่อยานพาหนะไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้ ทีมกู้ภัยท้องถิ่นจึงต้องหันไปใช้วิธีอื่นเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัยแทน
หนึ่งในวิธีที่นำมาแก้ปัญหาก็คือใช้ “ม้า” เพื่อช่วยลากรถที่บรรทุกผู้ประสบภัยออกนอกพื้นที่น้ำท่วม แต่ก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เมื่อม้าหนึ่งในสามตัวที่ได้รับภารกิจในครั้งนี้ได้ล้มลงกลางถนนก่อนที่จะสิ้นใจในที่สุด หลังจากที่มันได้พาชาวบ้านไปถึงพื้นที่ปลอดภัยได้สำเร็จ
ม้าตัวดังกล่าวต้องเดินลุยฝ่าพื้นที่น้ำท่วมสูงตลอด 3 ชั่วโมงโดยไม่มีหยุดพัก จนมันเกิดอาการเหนื่อยล้าอย่างหนัก ก่อนที่จะล้มลงจนเป็นภาพสะเทือนอารมณ์ให้กับทุกคน
เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้ใครหลายคน ทุกคนต่างรู้สึกขอบคุณในการทำหน้าที่ของมันในครั้งนี้ซึ่งได้ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก
แน่นอนว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความปลอดภัยของคนคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับเป็นอันดับแรก แต่หลายคนก็อยากให้หันมาใส่ใจในความปลอดภัยกับสัตว์อื่น ๆ บ้างเช่นกัน เพราะเมื่อใดที่เกิดภัยธรรมชาติขึ้น พวกมันมักจะเป็นพวกแรกที่ได้รับผลกระทบจากภัยที่พวกมันไม่ได้ก่อขึ้นเลย
ที่มา : worldofbuzz , tribunnews , standard.co.uk
