ชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแอมะซอน ป่วย COVID-19 รายแรก หวั่นอาจนำไปสู่การสูญสิ้นเผ่าพันธุ์

ถือได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ในต่างประเทศเลย เมื่อมีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของบราซิลว่า พบชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่ป่าแอมะซอน ป่วยด้วยโรค COVID-19 เป็นรายแรก

เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ชนเผ่ายาโนมามิ (Yanomami) ที่อาศัยอยู่กลางป่าทางตอนเหนือของบราซิลใกล้กับชายแดนเวเนซุเอลา มีอาการป่วย ไข้ขึ้นสูง แน่นหน้าอกและเจ็บคอ เข้าข่ายอาการของผู้ป่วยโรคไวรัส COVID-19 จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ผลตรวจครั้งที่ 2 ยืนยันออกมาเป็นบวก และขณะนี้กำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในห้อง ICU

ที่ตั้งของชนเผ่ายาโนมามิ

หลายคนอาจเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วเชื้อไวรัสมันสามารถแพร่กระจายไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลและลึกลับอย่างป่าแอมะซอนได้อย่างไร ตามรายงานระบุว่า เด็กชายเพิ่งเดินทางกลับมาจากฝั่งแม่น้ำ Mucajaí หลังจากที่โรงเรียนของเขาถูกปิดเพราะเกิดการแพร่ระบาดในบราซิล และอ่าจได้รับเชื้อมาจากที่นั่น

การติดเชื้อเป็นรายแรกของเด็กหนุ่มที่เป็นชาวพื้นเมือง ซึ่งปกติก็ไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอก ทำให้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของบราซิลมีความตื่นกลัวว่า ชนเผ่าพื้นเมืองอาจต้องเผชิญกับหายนะร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

สมาชิกชนเผ่ายาโนมามิ

ในอดีตเมื่อช่วงปี 1960 ชนเผ่าแห่งนี้ก็เคยเกิดโรคติดต่อร้ายแรงอย่างโรคหัดหรือไข้หวัดใหญ่มาแล้ว ซึ่งคาดว่าอาจจะได้รับเชื้อมาจากกลุ่มหมอสอนศาสนาหรือทหารที่ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยม โดยครั้งนั้นได้คร่าชีวิตชาวเผ่ายาโนมามิไปกว่า 9% และเพราะความที่พวกเขาตัดขาดจากโลกภายนอก ทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกับเชื้อโรค ส่งผลให้ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน

ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้หลายฝ่ายกลัวว่า หากไม่มีการกักตัวและลดการแพร่ระบาดแล้ว ชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มนี้อาจเสี่ยงต่อการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ได้เลย

นอกจากนี้ หากผู้อาวุโสของเผ่าซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงได้เสียชีวิตลง ภูมิปัญญาต่างๆ ลำดับชนชั้นทางสังคมที่สืบทอดกันมาก็จะเสียกระบวนไปหมด จนอาจเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่หลวง

ในส่วนของชนเผ่ายาโนมามิจัดว่าเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล มีจำนวนกว่า 200 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9,300 ตารางกิโลเมตร

ที่มา : dailymail , tronya , globo