ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตไวรัส COVID-19 แต่ในประเทศจีน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ สถานที่ท่องเที่ยวที่เคยถูกสั่งปิดไป ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
นั่นจึงทำให้เราได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวกว่า 20,000 ชีวิตยืนเบียดเสียดกันในอุทยานแห่งชาติเขาหวงซาน ในมณฑลอานฮุย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน หลายคนสวมหน้ากากอนามัย มีความกระหายอยากจะสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปิดตัวไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
รวมไปถึงทางรัฐบาลจีนได้ออกนโยบายงดเว้นค่าเข้าชมประมาณ 850 บาท เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม มีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นเขาจนล้นทะลักหลายหมื่นคน เกินกว่าจำนวนที่อุทยานจะรองรับไหว ซึ่งจำกัดผู้เข้าชมเพียง 20,000 คนต่อวันเท่านั้น ทำให้นักท่องเที่ยวบางคนต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศว่าไม่รับเพิ่มแล้ว ในเวลาตอน 07.48 น. เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ในมหานครนครเซี่ยงไฮ้ บริเวณ The Bund สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ริมแม่น้ำหวงผู่ ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีผู้คนสัญจรไปมาอย่างคับคั่ง หลังจากต้องอยู่ในสภาพราวกับเมืองร้างนานหลายสัปดาห์ รวมไปถึงในเมืองปักกิ่ง สถานที่ต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นสัญญาณที่ดี ที่รัฐบาลจีนเริ่มพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ และทยอยผ่อนคลายความเข้มงวดต่าง ๆ ลงไป แต่ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาบอกว่า การออกมารวมตัวกันในเวลานี้ยังเร็วเกินไป ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกครั้ง พร้อมแนะนำให้พลเมืองดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังต่อไป เหมือนช่วงการระบาดใหญ่ที่ผ่านมา
“ด้วยสถานการณ์การระบาดทั่วโลกที่ยังควบคุมไม่ได้ ในประเทศจีนเองยังไม่ใกล้เคียงคำว่าจบด้วยซ้ำ เพียงแค่เข้าสู่ระยะใหม่เท่านั้น” เสิง กวง (Zeng Guang) หัวหน้านักระบาดวิทยาแห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าว
ในประเทศจีน มีรายงานผู้ติดเชื้อล่าสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จำนวน 39 ราย ติดเชื้อจากนอกประเทศ 38 ราย และในประเทศ 1 ราย ทำให้จีนมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 82,641 ราย และผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,335 ราย
