ฝูงตั๊กแตนหลายล้านตัวระบาดในแอฟริกาตะวันออก ทำลายพืชผลเสียหายหนักสุดรอบ 70 ปี

ในช่วงเวลาที่ไวรัสโคโรนาระบาดที่ประเทศจีน อีกฟากหนึ่งของโลก อย่างในแอฟริกาตะวันออกก็ต้องเผชิญกับฝูงตั๊กแตนปาทังการะบาด ทำลายพืชผลเสียหายหลายร้อยตารางกิโลเมตร ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 500 เท่านับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นภัยคุกคามต่อการขาดแคลนอาหารของผู้คน

ทางสหประชาชาติเองก็ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติในการต่อสู้กับฝูงตั๊กแตนด้วย

ตามรายงานจากสำนักข่าว BBC เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2019 ฝูงตั๊กแตนหลายล้านตัวได้บุกเข้ามากัดกิน ทำลายพืชผลทางการเกษตรทั้งในเคนยา เอธิโอเบีย และโซมาเลีย มากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในเคนยานับเป็นหายนะจากภัยตั๊กแตนที่หนักที่สุดในรอบ 70 ปี

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซูดานใต้และยูกันดาก็มีความเสี่ยงจากตั๊กแตนคุกคามเช่นกัน หากพวกมันยังขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง การเข้าไปให้ความช่วยเหลือก็เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในประเทศโซมาเลีย เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มก่อการร้าย

พวกมันยังสามารถแพร่กระจายไปถึงประเทศที่อยู่ติดกับทะเลแดงทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ ซูดาน เอริเทรีย และซาอุดิอาระเบีย

ตั๊กแตนสามารถเดินทางได้ไกลถึง 150 กิโลเมตรภายในหนึ่งวัน และตั๊กแตนที่โตเต็มวัยสามารถกินพืชผลได้เท่ากับน้ำหนักของตัวมันเอง

มีการประเมินว่า พวกมันจะบินเกาะกลุ่มกันเป็นฝูงยาวกว่า 60 กิโลเมตร และกว้าง 40 กิโลเมตร โดยตั๊กแตนฝูงเล็ก ๆ ก็สามารถทำลายพืชผลสำหรับคน 35,000 คนได้ภายในวันเดียว

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า ความเร็วและจำนวนของการแพร่กระจายของฝูงตั๊กแตนเกินขีดความสามารถของหน่วยงานท้องถิ่นและทางการจะรับมือไหว

ทางเลือกเดียวที่จะแก้ปัญหาก็คือ การฉีดยาฆ่าแมลงจากบนเครื่องบิน พร้อมกับขอความช่วยเหลือจากนานาชาติในการร่วมแก้ไขปัญหาครั้งนี้ด้วย

ที่มา : bbc , reuters