นักสำรวจพบ เสาโลหะปริศนา ตั้งกลางทะเลทราย หลายคนงง นี่มันงานศิลป์ หรือ วัตถุต่างดาว

เกิดเป็นเรื่องราวฮือฮาในต่างประเทศขึ้น เมื่อมีการพบวัตถุลึกลับตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลทราย โดยยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหรือบุคคลใด โดยเจ้าสิ่งนี้ดันมีหน้าตาที่คล้ายกับวัตถุในหนังเรื่องหนึ่ง บางกระแสถึงกับบอกว่า หรือนี่อาจเป็นวัตถุจากนอกโลก

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ป่ารัฐยูทาห์ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจประชากรแกะบิ๊กฮอร์นในพื้นที่ทะเลทราย ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ระหว่างเครื่องกำลังบินอยู่ ก็เห็นเสาโลหะลึกลับตั้งตระหง่านอย่างโดดเดี่ยว ความสูงประมาณ 3-3.6 เมตร มีลักษณะเป็นมันเงา ตั้งปักอย่างมั่นคงอยู่ในทราย ซึ่งบ่งชี้ว่า เสาโลหะนี้อาจไม่ได้หล่นมาจากเบื้องบน

เบรต ฮัตชิงส์ (Bret Hutchings) นักบินเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ได้กล่าวกับ KSL-TV ว่า หนึ่งในนักชีววิทยาของทีมสำรวจที่มาด้วยสังเกตเห็นเป็นคนแรก ขณะบินผ่านด้านบนของเสาโลหะ ก่อนที่เขาจะตะโกนกลับมาว่า ให้วนเครื่องกลับอย่างไว และเมื่อนักบินพาเครื่องวนกลับมาก็ให้นักชีววิทยาเข้าไปตรวจสอบ

ทีแรกทีมงานยังคิดว่า นี่น่าจะเป็นสิ่งที่นาซ่าสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวสะท้อนสัญญาณดาวเทียมหรือเปล่า

“พวกเรายังอำกันอยู่เลย ถ้าเกิดจู่ ๆ เราคนใดคนหนึ่งในนี้เกิดหายตัวขึ้นมา พวกเราที่เหลือคงต้องโกยหน้าตั้งแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม ฮัตชิงส์เชื่อว่า เจ้าวัตถุลึกลับน่าจะเป็นผลงานศิลปะบางชนิดที่ตัวเขาก็ยังไม่เก็ตมากกว่า

“ไม่แน่ก็อาจจะเป็นฝีมือของศิลปินคลื่นลูกใหม่ ที่เป็นแฟนภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง 2001: A Space Odyssey ก็เป็นได้ เพราะโครงสร้างมันช่างละม้ายคล้ายแท่งโลหะที่อยู่ในฉากหนึ่งของหนัง”

ภาพจากในหนังเรื่อง 2001: A Space Odyssey

นอกจากนี้ พวกเขาไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดที่ตั้ง เพราะกลัวจะมีคนแห่มาดูจนทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพภูมิประเทศโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นการรบกวนสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อีกด้วย

แต่จะว่าไปก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกก็ได้ เพราะรัฐยูทาห์เคยมีประวัติการจัดแสดงผลงานศิลปะกลางแจ้งหลายชิ้น อย่างเช่น ศิลปะขดลวด ซึ่งมีส่วนประกอบจากโคลน ผลึกเกลือ และหินบะซอลต์ มาวางเรียงต่อกันด้วยความยาวถึง 450 เมตร ในช่วงปี 1970 มาแล้ว

ภาพผลงานศิลปะดังกล่าว

แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีผู้ออกมาประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของเสาโลหะลึกลับนี้

“นี่เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอมาในรอบหลายปีที่ผมได้บินเลย” ฮัตชิงส์กล่าวปิดท้าย

ที่มา : ksltv , dailymail