หนุ่มชาวอู่ฮั่น อยากบอกสถานการณ์จริงให้โลกรู้ พร้อมตั้งคำถามรัฐบาลจีนในการแก้ปัญหาไวรัส

ชายหนุ่มชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้อัดคลิปวีดีโอร่ายยาวถึงสิ่งที่อัดอั้น และอยากบอกให้คนทั้งโลกได้รับรู้ แต่อย่างไรซะ นี่เป็นแค่มุมมองของเขาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นนะ

คลิปดังกล่าวถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา และกำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ชายหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า เฉิน (Chen) ได้ออกตัวว่า มีความเสี่ยงอย่างมากที่เผยแพร่คลิปนี้ออกไป รวมถึงการจะต่ออินเทอร์เน็ตออกนอกประเทศก็เป็นเรื่องยาก เขาต้องใช้ VPN เพื่ออัพโหลดคลิปออกนอกเครือข่ายประเทศจีน

แต่หวังอยากจะให้ผู้คนที่อยู่นอกประเทศจีนได้รับรู้สถานการณ์ความเป็นจริงในเมืองอู่ฮั่น

จากนั้นเขาก็เริ่มหยิบยกประเด็นมา 2-3 ข้อ ที่รู้สึกว่าเป็นปัญหาของรัฐบาลจีนในการจัดการกับการระบาดของไวรัสในครั้งนี้

1. ความยากลำบากของผู้ป่วยที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

เฉินกล่าวว่า ในขณะนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล หากใครถูกสงสัยว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง การจะเดินทางไปโรงพยาบาลก็ยากลำบาก ระบบขนส่งสาธารณะถูกสั่งยกเลิก ปั๊มน้ำมันก็ถูกสั่งปิด

และหากใครได้ไปถึงโรงพยาบาล ก็ต้องพบกับคิวยาวเหยียด โดยที่ไม่มีหมายเลขคิวให้กับผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ

“ผู้ป่วยหลายคนต้องรอหลายชั่วโมงกว่าจะโดนเรียกตัว บางคนไม่ได้ติดเชื้อไวรัส แต่การที่ต้องมานั่งรอเป็นเวลานานในโรงพยาบาล ก็อาจทำให้ติดเชื้อขึ้นมาจริง ๆ”

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า สายฉุกเฉินที่รับแจ้งเหตุก็ติดต่อแทบไม่ได้ ยิ่งเป็นปัญหาสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินรายอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูงในการขอความช่วยเหลือ

2. เขาตั้งคำถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงไม่แจ้งประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยให้เร็วกว่านี้

เฉินกล่าวว่า เขาเห็นคนส่วนใหญ่ออกมาเดินในที่สาธารณะโดยไม่สวมหน้ากากป้องกันในวันที่ 22 ม.ค. ก่อนที่เมืองจะถูกปิด 1 วัน บางคนก็เล่นไพ่นกกระจอก พูดคุยหยอกล้อกันบนท้องถนนตามปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขาเกิดความสงสัยว่า ทำไมหน่วยงานรัฐไม่ออกมาเตือน หรือแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ หรือพวกเขาอาจไม่รู้ข่าวว่ามีไวรัสระบาดในพื้นที่ แบบนี้จะเรียกว่าละเลยในตำแหน่งหน้าที่หรือเปล่า

3. ผู้ป่วยล้นเกินกว่าโรงพยาบาลจะรับไหว และขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์ทุกอย่าง

เฉินอ้างว่า เขาได้ยินจากเพื่อนที่ทำงานในโรงพยาบาลว่า ผู้ป่วยหลายคนมาที่โรงพยาบาล แต่ได้รับยาแก้อักเสบหรือฉีดฮอร์โมนกลับไปแค่นั้น

“เพื่อให้เห็นภาพ เหมือนคุณกำลังถูกปล่อยให้ตาย หากคุณแข็งแรงพอก็จะรอด แต่ถ้าไม่ ก็คือตาย”

และไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด ทางโรงพยาบาลยังแจ้งกับคนไข้ที่เข้าข่ายมีอาการให้กลับบ้านไปพักและแยกตัวออกจากคนอื่นซะ

“อย่างน้อยพวกเขาก็ควรจะตรวจและวินิจฉัยคุณก่อน แต่ทำไมกลับกล้าที่จะปล่อยให้พวกคุณกลับบ้านหน้าตาเฉย

“ถ้าหากคุณเกิดติดเชื้อขึ้นมาจริง ๆ เท่ากับว่ารัฐหรือโรงพยาบาลได้อนุญาตให้คุณนำเชื้อกลับไปแพร่กระจายในชุมชนของคุณแบบนี้หนะเหรอ”

เขาเปรียบเมืองอู่ฮั่นในขณะนี้ว่าไม่ต่างกับขุมนรก

“มีหลายคนที่ได้เห็นคลิปที่ปรากฏในโซเชียล ทั้งการล้มทั้งยืนของผู้ป่วย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงตรุษจีน แต่จะมีใครที่มีความสุขกับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลนี้อีก”

สุดท้ายเขาฝากถึงนานาชาติ ให้ช่วยร่วมกดดันรัฐบาล พร้อมทั้งระบุว่า เขาและเพื่อนในวัย 20-30 ปี ไม่ได้โง่และไม่ได้ถูกล้างสมอง

“ในใจพวกเราต่างรู้ดี และรู้ด้วยว่าประเทศนี้เป็นอย่างไร พวกเราไม่มีอำนาจ มีแค่เลือดเนื้อ จะเอาอะไรไปสู้กับชุดเกราะและรถถังได้”

พร้อมกับฝากถึงชาวจีนในต่างแดนที่ได้ดูคลิปนี้ช่วยกระจายสถานการณ์ที่แท้จริงในอู่ฮั่นให้ภายนอกได้รู้

“ผมแค่ต้องการสร้างแรงกดดันจากสาธารณะ เพื่อให้รัฐบาลจีนได้รับรู้ และอย่าปัดความรับผิดชอบไปมากกว่านี้เลย”

ที่มา : mothership , cgtn