10 เหตุการณ์ธรรมชาติพิโรธ ที่โลกต้องสะพรึง!!!

หากลองมองย้อนกลับไปโลกใบนี้ เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติมานับครั้งไม่ถ้วน บ่อยครั้งที่ความเสียหายรุนแรงเสียจนยากเกินเยียวยา ไม่ว่าโลกจะพัฒนา มีเทคโนโลยี วิวัฒนาการก้าวไกลสักเพียงไหน สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจต้านทานพลังทำลายร้างของธรรมชาติได้อยู่ดี วันนี้เราจะพาคุณไปย้อนดูเหตุการณ์ “ความพิโรธของธรรมชาติ” ที่ทำเอามนุษย์แบบเราๆ ได้ตระหนักถึงพลังทำลายร้างที่ทรงพลานุภาพของธรรมชาติเลยทีเดียว

.

1. แผ่นดินไหว ประเทศชิลี 1960

.

เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1960 ที่ประเทศชิลี ระดับความรุนแรงในครั้งนั้นวัดได้ถึง 9.5 แมกนิจูด ศูนย์กลางลึก 33 กิโลเมตร ห่างจากกรุงซานดิเอโกไปทางตอนใต้ประมาณ 570 กิโลเมตร จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มชายฝั่งทางตอนใต้ของชิลี เกาะฮาวาย ชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และเกาะอะลูเชียน ภัยพิบัตินี้ได้พรากชีวิตผู้คนไป 1,655 ราย บาดเจ็บ 3,000 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 2,000,000 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตที่เกาะฮาวาย 61 ราย ญี่ปุ่น 138 ราย และฟิลิปปินส์ 2 ราย

.

2. แผ่นดินไหว อลาสกา 1964

.

เหตุธรณีพิโรธที่อลาสกา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1964 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 9.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจไปทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ 120 กิโลเมตร ลึกจากผิวดิน 25 กิโลเมตร เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา ความเสียหายคือ มีผู้เสียชีวิตรวม 131 ราย จากแผ่นดินไหวโดยตรง 9 ราย และอีก 122 ราย จากสึนามิ

.

3. แผ่นดินไหว อินโดนีเซีย 2004

.

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดในทะเลอันดามัน ณ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 นี้ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าใส่พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์ของประเทศที่คนไทยไม่มีวันลืม ความแรงของแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับ 9.1-9.3 แมกนิจูด นานถึง 10 นาที ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีความสูงกว่า 30 เมตร ประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัตินี้ ความเสียหายคือ มีผู้ที่เสียชีวิตกว่า 227,898 ราย (รวมผู้สูญหายและคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว) โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีผู้เสียชีวิตถึง 1.7 แสนราย ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีผู้เสียชีวิตมากถึง 8,212 ราย

.

4. พายุเฮอริเคนแคทรีนา สหรัฐฯ 2005

.

พายุเฮอริเคนแคทรีนาได้พัดเข้าถล่มสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2005 สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมืองนิวออร์ลีนส์ แหล่งน้ำมันสำคัญของสหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนกวา 5 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้นานถึง 2 เดือน อีกทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 ราน ตีความเสียหายเป็นมูลค่าอย่างน้อย 80,000 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว

.

5. พายุหมุนนาร์กิส พม่า 2008

.

เหตุการณ์พายุไซโคลนถล่มประเทศพม่า เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ปี 2008 นั้น เรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดของพม่าเลยก็ว่าได้ ด้วยความเร็วลมกว่า 215 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 146,000 ราย และสูญหายอีกกว่า 54,000 คน

.

6. แผ่นดินไหว เฮติ 2010

.

เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นที่สาธารณรัฐเฮติ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2010 สามารถวัดระดับความสั่นสะเทือนได้ถึง 7.0 แมกนิจูด ที่ลึกลงไปใต้ดินราว 13 กิโลเมตร ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศไปราว 25 กิโลเมตร ซึ่งนับว่านี่เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปี เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 3 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตอีกกว่า 500,000 คน

.

7. แผ่นดินไหว ญี่ปุ่น 2011

.

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 วัดความสั่นสะเทือนได้ถึง 9.0 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ใต้น้ำลึก 30 กิโลเมตร ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความสูงกว่า 40.5 เมตร เข้าเล่นงานพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ซ้ำร้ายยังสร้างความเสียหายให้กับเตาปฎิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิจิ เหตุภัยพิบัติครั้งนี้สร้างความบอบช้ำและความเสียหายให้กับประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ทั้งเหตุแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม แถมยังพ่วงมาด้วยวิกฤตการณ์กัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอีก จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 15,842 ราย บาดเจ็บ 5,890 คน และสูญหายอีกกว่า 3,485 คน แต่ที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ เหตุธรรมชาติพิโรธในครั้งนี้ ทำให้เกาะฮอนชูของญี่ปุ่น เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกประมาณ 2.4 กิโลเมตร ส่งผลให้แกนโลกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมถึง 10-25 เซนติเมตร นั่นเอง

.

8. ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ฟิลิปปินส์ 2013

.

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดเข้าถล่มประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2013 มีควาเร็วลม 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก่อให้เกิดคลื่นพายุหมุนขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่งราวกับคลื่นยักษ์สึนามิ จากเหตุการณ์นี้ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 6,000 ราย และสูญหายอีกกว่า 2,000 ราย เรียกได้ว่าเป็นพายุที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์เลยทีเดียว

.

9. ดินถล่ม อัฟกานิสถาน 2014

terrible-natural-disaster-11

.

เหตุการณ์ดินถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและถูกฝังทั้งเป็นมากกว่า 2,000 คน นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2014 แถบชานเมือง อัฟกานิสถาน สาเหตุของดินถล่มในครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักดินถล่ม บ้านหลายร้อยหลังคาในแถบนั้นถูกฝังจนมิด ยิ่งไปกว่านั้นการลำเลียงความช่วยเหลือก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศ และการขาดแคลนอุปกรณ์

.

10. แผ่นดินไหว ยูนนาน 2014

.

เหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2014 วัดความสั่นสะเทือนได้มากถึง 6.3 แมกนิจูด ที่ความลึก 7 กิโลเมตร จากผิวดิน ความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย บาดเจ็บ 1,800 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก นอกจากนี้บ้านเรือนในบริเวณดังกล่าวยังได้รับความเสียหายอีกกว่า 30,000 หลัง

.

เหตุการณ์ความพิโรธของธรรมชาติล้วนตามมาด้วยความโศกเศร้า และความสูญเสีย แต่อีกมุมหนึ่งของภัยพิบัติ เราจะได้เห็นภาพของความร่วมมือ ร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ช่วยเหลือเจือจุน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความสามัคคีของมวลมนุษยชาติที่มีต่อกัน อย่ารอให้เกิดเรื่องร้ายๆก่อนแล้วค่อยสามัคคีกันเลยเนอะ

.

ที่มา : Top 15