ว่ากันด้วยเรื่องการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมของคนในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่เพศชายและเพศหญิง แม้แต่เพศที่สามก็มีบทบาทมากขึ้น แต่ก็มีคนบางกลุ่มมองว่า หากเมื่อไหร่ที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์ กลับตีตราอีกฝ่าย ทั้งที่เรียกร้องให้สังคมเกิดความเท่าเทียมกัน
แน่นอนว่า สังคมเราถูกปลูกฝังมาว่าผู้ชายย่อมต้องเสียสละให้กับสตรีเพศ แต่ก็เกิดคำถามและข้อถกเถียงไม่จบสิ้นว่า หากพวกเขาไม่ยอม ไม่ว่าเหตุผลใดก็แล้วแต่ จะมีสิทธิ์โดนตำหนิหรือไม่
เรื่องราวเริ่มขึ้นมาจากหญิงสาวรายหนึ่งได้ขึ้นรถไฟใต้ดิน แต่กลับไม่มีคนลุกให้นั่ง โดยเธอโพสต์ภาพของตัวเองในขณะที่ถือของอยู่ พร้อมกับแคปชั่นว่า
“หมดตัวแล้วกลับบ้านกันจ้า… #ขอบ่นตามประสา ผู้ชายไทยบนรถไฟฟ้าใต้ดินบางคนสมัยนี้ เห็นผู้หญิงถือของมากมายก็ไม่มีน้ำใจลุกให้นั่ง เห้ออออออ”
และเรื่องราวก็ได้กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายที่ใช้ชื่อว่า วิสุทธิ์ วิริยากุลภัทร์ ได้แคปภาพโพสต์ของหญิงสาวรายนั้นมาแชร์ลงเฟซบุ๊กอีกที จนกลายเป็นข้อถกเถียงถึงสิทธิความเท่าเทียมกัน
โดยตัวเขามองว่า เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อว่าคนที่ไม่ยอมลุกให้นั่งว่าเป็นคนไม่มีน้ำใจ ทีตอนเดินชอปปิงเป็นชั่วโมง แบกของมากขนาดนั้นจากห้างยังทำได้ แถมยังมาแสดงความรังเกียจคนที่ไม่ลุกให้นั่งเพราะมัวแต่นั่งจิ้มมือถือ
จากนั้นเขาได้โพสต์ภาพคอมเมนต์ของหญิงสาวและเพื่อนเธอที่คุยกันในโพสต์นั้น โดยต่อว่าคนที่ไม่ยอมลุกให้นั่งว่าเป็นตุ๊ด
อีกทั้งยังแสดงความรังเกียจที่มัวแต่สนใจมือถือมากกว่าสนใจตัวเธอ
ต่อมาทางคุณวิสุทธิ์ ก็ได้ไปคอมเมนต์ว่า ที่เธอโพสต์นี้คือล้อเล่นหรือเรื่องจริง เธอก็ตอบโต้ว่า เป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่ได้แคร์ เพราะไม่คิดจะนั่งอยู่แล้ว แต่ควรสนใจกันหน่อยไม่ใช่นั่งบื้อเป็นควาย
งานนี้ก็เลยเป็นประเด็นให้มีการโต้เถียงกันดุเดือดว่า เธอสามารถใช้อภิสิทธิ์ในความเป็นผู้หญิงต่อว่าคนที่ไม่ยอมเสียสละที่นั่งให้กับเธอได้เหรอ ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไปแล้ว
แล้วคุณหละ มีความคิดเห็นอย่างไร ?
ที่มา : วิสุทธิ์ วิริยากุลภัทร์