11 สิ่งประดิษฐ์สุดแปลกสำหรับเด็กทารก ในช่วงยุค 1900

ในช่วงยุค 1900 หรือช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นั้นถือเป็นช่วงเวลาของยุคสิ่งประดิษฐ์เฟื่องฟูก็ว่าได้ เนื่องจากบรรดานักประดิษฐ์ทั้งหลายต่างพากันคิดค้น และสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ออกมามากมายหลายชิ้น ซึ่งสิ่งประดิษฐ์สำหรับเด็กอ่อนนั้นก็ได้สร้างขึ้นมาหลายชิ้นเช่นกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พ่อแม่ของเด็กนั่นเอง

และในวันนี้เราจึงมี 11 สิ่งประดิษฐ์สุดแปลกสำหรับเด็กน้อย ในช่วงยุค 1900 มาให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ชมกัน ลองไปดูกันว่าความแปลกของมันจะชวนให้ประหลาดใจได้มากน้อยแค่ไหน

.

1. Sleeping Porch : ปี 1916

.

เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาการเลี้ยงเด็กทารกในเมืองใหญ่ที่ต้องอยู่ภายในห้องที่มีพื้นที่จำกัดมากๆ ด้วยการสร้างกรงเหล็กที่มีน้ำหนักประมาณ 500 ปอนด์ ติดอยู่กับหน้าต่าง และยื่นออกไปด้านนอก แล้วนำเด็กทารกไปอยู่ด้านใน ถึงแม้ว่ามันจะดูมีโครงสร้างที่แข็งแรง แต่ว่าก็ดูเสี่ยงมากๆ เช่นกันในการนำเอาเด็กอ่อนไปอยู่ในนั้น

.

2. Self-Operated Cradle : ปี 1917

.

เปลที่สามารถแกว่งเองได้ ทำขึ้นมาเพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่พ่อแม่ที่ต้องทำงานหนักแล้วยังต้องมาไกวเปลกล่อมลูกน้อยที่ร้องไห้งอแงนอนหลับอีก เปลนี้ติดมอเตอร์ไว้เพื่อให้มันสามารถไกวเองได้ และมีตาขายติดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กตกลงมาจากเปล หรือปีนหนีออกมา

.

3. Baby Holder : ปี 1917

.

สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ผู้โดยสารบนรถไฟต้องมาอดทนฟังเสียงเด็กน้อยที่ร้องไห้งอแง ซึ่งรบกวนการนอนหลับพักผ่อนในยามค่ำคืนเป็นอย่างมาก เพียงแค่พ่อแม่ของเด็กใส่ลูกน้อยเข้าไปในแคบซูลเก็บเสียง ก็จะทำให้เสียงร้องไห้งอแงนั้นเบาลงไปมาก

.

4. Motor-Driven Cradle : ปี 1920

.

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพ่อแม่ โดยที่พ่อแม่นั้นไม่ต้องมาคอยนั่งไกวเปลให้กับลูกน้อย เพราะเพียงแค่ปล่อยให้มอเตอร์มันทำงานไป เปลก็สามารถไกวเองได้ และพ่อแม่ก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้จะแตกต่างจากชิ้นบนตรงที่มีลักษณะเป็นเหมือนมุ้งครอบอยู่

.

5. Black Light Baby : ปี 1934

.

หลังจากที่มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญของการลักพาตัวหนูน้อย Lindbergh นักประดิษฐ์จึงได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเด็กน้อยขึ้นมา ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ต้องติดไว้ที่ใต้เตียงของเด็ก และจะส่งเสียงเตือนภัยทันทีเมื่อเด็กถูกอุ้มขึ้นมาจากเปล แต่ว่าไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนนั้นจะชื่นชอบอุปกรณ์ชิ้นนี้

.

6. Baby Bicycle Seat : ปี 1938

.

ที่นั่งติดจักรยานสำหรับเด็กน้อย ที่จะทำให้พ่อแม่นั้นสามารถพาลูกน้อยออกไปเดินเล่นโดยที่ตัวเองก็สามารถปั่นจักรยานไปได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยที่ต้องคอยเดินเข็นรถเข็นเด็กไปไหนมาไหน มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เข้าท่าไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าเกิดว่าไม่เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เช่น จักรยานล้ม หรือจักรยานถูกยานพาหะอื่นๆ ชน เป็นต้น

.

7. Baby Gas Mask : ปี 1938

.

เนื่องจากภัยสงคราม และการถูกคุกคามทางอากาศในประเทศต่างๆ แถบยุโรป นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสจึงได้คิดค้นอุปกรณ์ช่วยป้องกันเด็กทารกจากมลพิษทางอากาศ จึงออกมาเป็นหน้ากากป้องกันก๊าซพิษสำหรับเด็ก ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดนี้

.

8. UV Lamp Brands : ปี 1938

.

เนื่องจากปัญหาเรื่องการสลับตัวเด็กในโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงได้ใช้วิธีทำเครื่องหมายไว้บนตัวของเด็กทารกโดยใช้ตะเกียงแสงอัลตราไวโอเลตทำเป็นชื่อของเด็ก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้พ่อแม่ทราบว่าเด็กคนไหนเป็นลูกของใครกันแน่

.

9. Baby Gas Mask Upgrade : ปี 1939

.

หลังจากที่กองทัพของเยอรมนีบุกโปแลนด์ได้เพียงแค่ 1 เดือน หน้ากากป้องกันก๊าซพิษสำหรับเด็กทารกก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นรุ่นอัพเกรดที่สามารถพกพา และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม ไม่มีความเทอะทะแบบรุ่นเก่า

.

10. Baby Walker : ปี 1939

.

สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้คืออุปกรณ์ช่วยให้เด็กทารกหัดเดิน ซึ่งพ่อแม่จะได้ร่วมในประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และได้แบ่งปันช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นนี้ไปพร้อมๆ กับลูกน้อยของตัวเอง ขาของลูกน้อยนั้นจะต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับขาของพ่อหรือแม่ เพื่อที่จะก้าวไปได้พร้อมๆ กัน โดยมีพ่อหรือแม่คอยควบคุมทุกย่างก้าวของลูกอยู่ด้านหลัง

.

11. Safety Belt : ปี 1939

.

สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกน้อย และทำทุกอย่างให้กับลูกเพียงลำพัง ซึ่งเข็มขัดนิรภัยนี้จะช่วยล็อกตัวหนูน้อยไม่ให้จมน้ำขณะที่อาบน้ำอยู่ โดยเฉพาะเวลาที่แม่เกิดต้องไปทำอะไรสักอย่างกระทันหัน เพียงแค่ล็อกเข็มขัดไว้ลูกน้อยก็จะปลอดภัยหายห่วง

.

ถึงแม้ว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้อาจมีรูปร่างที่ดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่หลายชิ้นนั้นก็ถือว่าเป็นไอเดียที่เจ๋ง และมีคุณสมบัติที่ดีมากๆ ทีเดียว สำหรับการนำมาใช้งานกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงเวลา และยุคสมัยนั้นๆ ดูแล้วมันก็เวิร์คอยู่เหมือนกัน คุณคิดเหมือนกันมั้ย?

.

ที่มา : viralnova