“ถ้าผมตาย พวกคุณก็ต้องตายด้วย” ผู้ป่วยดึงหน้ากากหมอออก และถ่มน้ำลายใส่หน้า

เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ในช่วงระบาดหนัก ทางการจีนได้ออกมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด และได้ประกาศเตือนห้ามประชาชนเดินทางเข้าและออกเมืองอู่ฮั่นไปแล้ว พร้อมสั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน รวมถึงแนะนำให้กักตุนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในช่วงไวรัสระบาด

และตามโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่นก็มีผู้ป่วยจำนวนมากรอรับการรักษา

เหตุการณ์ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 23 ม.ค.

ผู้ป่วยบางส่วนถึงกับล้มพับระหว่างรอการตรวจรักษา

และในขณะเดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์ต่างก็ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีล้นเกินกว่าทางโรงพยาบาลจะรับไหว แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับรู้ถึงความเสียสละในครั้งนี้

มีชาวเน็ตจีนคนหนึ่ง ที่อยู่ในเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย์ ได้แชร์ภาพแชตระหว่างเธอกับเพื่อนที่ทำงานในโรงพยาบาล ซึ่งไม่ได้หยุดพักแม้ในช่วงวันตรุษจีน

เพื่อนของเธอเล่าว่า ได้ยื่นหน้ากากอนามัยให้กับผู้ป่วยชายคนหนึ่ง พร้อมกับบอกเขาว่า

“ในโรงพยาบาลมีผู้ป่วยอยู่จำนวนมาก ถ้าหากคุณป่วย ภูมิคุ้มกันคุณก็จะอ่อนแอ ฉันเลยเอาหน้ากากมาให้ใส่ เพื่อคุณจะได้ไม่ป่วยไปมากกว่านี้”

ทันใดนั้น ชายคนดังกล่าวกลับเกิดการคลุ้มคลั่ง และเขวี้ยงหน้ากากทิ้งขณะที่เธอกำลังสวมหน้ากากให้ และพูดขึ้นว่า

“ผมป่วยอยู่แล้ว ใส่หน้ากากตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไร”

และไม่เพียงแค่ตะคอก เขากลับดึงหน้ากากของเธอออก พร้อมกับถ่มน้ำลายใส่หน้าเธอ และพูดขึ้นว่า

“ถ้าผมไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อ พวกคุณก็ต้องตายเช่นกัน”

เชื่อกันว่าที่ชายคนนั้นเกิดโมโหจนสติหลุด เพราะผู้ป่วยมีจำนวนมาก และทรัพยากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยอย่างทั่วถึง

และเหตุการณ์ในครั้งนี้นี่เอง ทำให้เธอได้ร้องไห้ออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต และถูกทางโรงพยาบาลสั่งกักตัวเพื่อรอตรวจดูอาการ ซึ่งเธอก็มองโลกในแง่ดีว่า ผู้ชายที่ถ่มน้ำลายใส่เธออาจเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์เหตุการณ์ทำนองนี้ในโลกออนไลน์อีก เมื่อหมอในเมืองอู่ฮั่นต้องเจอกับประสบการณ์คล้าย ๆ กัน โดยครอบครัวของผู้ป่วยรายหนึ่งได้ฉีกชุดป้องกันโรคของหมอออก และพูดว่า “คุณจะใส่ชุดป้องกันทำไม ถ้าผมตาย พวกคุณก็ต้องตายเหมือนกัน”

ล่าสุด (25 ม.ค. 2020) คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มเป็น 1,287 ราย เสียชีวิต 41 ราย

ที่มา : worldofbuzztw.news