เรื่องราวของเหรียญ “1 เยน” ที่ถูกวางทิ้งไว้ แต่ไม่หาย ซ้ำยังถูกเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ

เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ในกรณีที่ใครทำทรัพย์สินหรือของมีค่าสูญหาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกพบได้ตามสถานีตำรวจ และมักจะได้คืนเสมอ ทั้งนี้ เรื่องจิตสำนึกในการเคารพทรัพย์สินของผู้อื่นถูกปลูกฝังให้คนญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าสิ่งของชิ้นนั้นจะมีค่ามากน้อยเพียงใด พวกเขาจะถือคติ “ถ้าไม่ใช่ของคุณ คุณจะไม่รับมัน”

และก็มีเรื่องราวให้ชวนอมยิ้ม เมื่อเหรียญ 1 เยนสามารถสร้างความสุขเล็ก ๆ ให้กับผู้อาศัยที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งได้

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @kaya_its ได้ทวีตข้อความว่า ขณะที่เขากำลังกลับบ้าน เขาได้พบเหรียญ 1 เยนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร วางอยู่บนเครื่องอินเทอร์คอม (เครื่องสื่อสารแบบไม่ต้องยกหูสำหรับติดต่อกับคนภายใน) ในอะพาร์ตเมนต์ที่เขาอาศัยอยู่

และเขาก็นำเหรียญของตัวเองมาวางเพิ่มอีก 1 เหรียญซะเลย

จากนั้นอีก 2 วันต่อมา เขาก็อัปเดตว่า เหรียญก็ยังอยู่บนเครื่องเช่นเดิม แต่แค่ถูกใครไม่รู้หยิบมาเรียงไว้คู่กัน

จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 สัปดาห์ เหรียญก็ยังคงอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครไปแตะ

แต่แล้วเมื่อเข้าสัปดาห์ที่ 4 ก็กลับพบว่ามันออกลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งซะอย่างนั้น

ถูกใครไม่รู้เรียงเป็นพีระมิดเฉยเลย

ผ่านไปไม่นาน พีระมิดก็เริ่มก่อตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ก็พบว่ามีเหรียญเพิ่มเป็น 8 เหรียญ โดยมันถูกวางเรียงกันอย่างสวยงาม

ขณะที่ก็มีชาวเน็ตบางคนสงสัยว่า หนุ่มคนนี้อาจจะเป็นคนนำเหรียญทั้งหมดมาวางไว้เองหรือเปล่า

แต่ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ @hide1224ka เข้ามาแสดงตัวว่า ตนเป็นคนแรกที่วางเหรียญไว้เอง

นอกจากนี้ก็เกิดข้อสงสัยขึ้นตามมาว่า แล้วใครกันนะที่เป็นคนวางเหรียญที่ 3 ทั้งคู่จึงได้ทวีตเพื่อตามหาคนรับผิดชอบ

และไม่ทันไร ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @naoki5315 ก็ได้มาออกมาบอกว่า เป็นคนนำมันมาเรียงเป็นพีระมิด

เรื่องราวดังกล่าวสร้างรอยยิ้มให้กับชาวเน็ตหลายคน บางคนบอกเป็นการลงทุนด้วยเงิน 1 เยนที่สร้างความสุขแก่ผู้พักอาศัยที่อะพาร์ตเมนต์ไม่น้อย นี่อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งอาจจะได้เพื่อนใหม่โดยไม่รู้ตัวก็ได้

แต่หลายคนก็เกิดความกังวลว่า สุดท้ายเจ้าเหรียญ 1 เยนนี้มันจะเพิ่มทวีคูณไปอีกเท่าไหร่ เพราะล่าสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มันเพิ่มจำนวนเป็นเท่านี้แหล่ว

ที่มา : soranews24 , @kaya_its