คนเรามีสิทธิ์ที่จะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ได้ แต่อยู่ที่การแสดงของแต่ละคนมากกว่าว่าจะแสดงมันออกมามากน้อยแค่ไหน ก็เหมือนกับบางประเทศที่เลือกจะห้ามนำสิ่งนี้เข้าประเทศ ห้ามทำแบบนี้ในประเทศของเขา นั่นก็เป็นเพราะว่ามุมมองของแต่ละประเทศมีความคิดที่ต่างกัน ที่อาจทำให้บางคนไม่เข้าใจก็ได้ว่าทำไม งี้ก็ต้องรีบไปดูของต้องห้ามที่ห้ามนำเข้ามาในแต่ละประเทศต่อไปนี้กันเลย
.
1. อุปกรณ์หัดเดินของเด็ก
.
ในปี 2004 ประเทศแคนาดาห้ามใช้อุปกรณ์หัดเดินของเด็กเลย เพราะเขาคิดว่าความล่าช้าของของอุปกรณ์นี้ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้หากไปอยู่ในที่ที่ไม่ปลอดภัย และอาจทำให้พัฒนาการของเด็กช้าไปด้วย ถ้าไม่หัดหกล้มลุกคลุกคลานด้วยตัวเอง
.
2. หลอดไฟสว่าง
.
สำหรับบ้านเราหลอดไฟยิ่งสว่างก็ถือว่ายิ่งดี แต่กลับประเทศคิวบา อาร์เจนตินา หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา ถือเป็นสิ่งต้องห้ามเลยเพราะเวลาที่ใช้ไฟไปนานมันจะทำให้หลอดไฟยิ่งร้อนและอาจเกิดอันตรายได้ เลยอยากรณรงค์ให้หันมาใช้หลอดไฟ CFLs ที่ประหยัดกว่าแทน
.
3.ถุงพลาสติก
.
อย่างบ้านเราก็มีการรณรงค์กันอยู่ว่าอยากให้ลดการใช้ ถุงพลาสติก ก็คงไม่ต่างกับประเทศบังคลาเทศ ฝรั่งเศส แทนซาเนียและเม็กซิโกที่เขาห้ามใช้ถุงพลาสติกนั่นแหละแต่ก็ยังคงอนุญาตให้ร้านค้าปลีกหรือขายของช่ำสามารถใช้ได้อยู่
.
4.ซอสมะเขือเทศ
.
สิ่งต้องห้ามของประเทศฝรั่งเศสเพราะเขาเชื่อว่า ซอสมะเขือเทศ จะไปทำลายรสชาติอาหารแบบดั้งเดิมของประเทศเขาออกไป ยกเว้นเวลาที่ทานมันฝรั่งทอดจึงจะทานจิ้มกับซอสได้
.
5.หมากฝรั่ง
.
ในปี 2004 ประเทศสิงคโปร์ถือว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะคนที่เคี้ยวไม่ชอบที่จะทิ้งหมากฝรั่งลงในถัง แต่กลับคายตามถนนทำให้ลำบากกับคนที่เดินไปเหยียบ และถ้ายังดื้อไม่ยอมฟังถ้ามีคนเห็นต้องไปเสียค่าปรับหรือโดนลงโทษเลยก็ได้
.
6.ยาสูบ
.
ปี 2010 ประเทศภูฏานเป็นประเทศที่เรียกได้ว่ามีความสุขที่สุดที่สุดในเอเชีย เขาจึงสั่งห้ามทุกอย่างที่เกี่ยวกับยาสูบ ทั้งปลูก ขาย หรือผลิตเป็นอันขาด เพราะควันที่คนอื่นสูดเข้าไปมันจะไปลดความสุขของประชาชนในประเทศ
.
7. สีผสมอาหาร
.
สีผสมอาหารที่จะเป็นตัวช่วยให้อาหารดูน่าสนใจมากขึ้น แต่กับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ สีผสมอาหารถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายต่อร่างกายมาก เพราะหากได้รับเข้าไปในปริมาณที่มากๆมันก็จะส่งผลออกมาแน่นอน
.
ที่มา : cyber-breeze.com , spokedark