9 ซีนแอคชั่นในหนังดัง ที่มันเกิดขึ้นไม่ได้ในชีวิตจริง

คิดไม่ออกเลยว่าหนังฮอลลีวูดจะเป็นยังไงถ้าไม่มีการใช้สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ เพราะการใช้สิ่งเหล่านี้ทำให้หนังเรื่องโปรดของเราดูน่าตื่นตาและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่บางซีนแอคชั่นมันก็ช่างขัดกับกฎฟิสิกส์ซะจริงๆ

และนี่คือสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ในหนังดังที่ความจริงแล้วมันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ

.

9. ในหนัง : รถลอยได้

.

ดูเหมือนในหนังเนี่ยไม่มีแรงโน้มถ่วงเลย รถบัสกระเด็นข้ามสะพาน รถยนต์กระเด็นเมื่อถูกชน แต่ว่านี่ก็ขัดกับกฎฟิสิกส์ล่ะนะ

ในความเป็นจริง วัตถุอย่างรถยนต์หรือรสบัสไม่สามารถกระโดดหรือกระเด็นหลังจากโดนชน เรื่องนี้อธิบายได้ด้วยจลศาสตร์การเคลือนทีแบบโปรเจคไทล์ ที่บอกว่า ไม่ว่าวัตถุจะเคลื่อนที่เร็วขนาดไหน เมื่อมันเคลื่อนที่ไปในแนวนอน มันจะตกลงมา

.

8. ในหนัง :เสียงและแสงเดินทางด้วยความเร็วเท่ากัน

.

ทุกครั้งที่เห็นสายฟ้าในหนัง เราจะได้ยินเสียงสายฟ้าพร้อมๆ กัน แต่ว่าเด็กๆ นักเรียนทุกคนก็รู้ว่าแสงเดินทางเร็วกว่า

ในความเป็นจริง เราจะเห็นสายฟ้าก่อน ค่อยได้ยินเสียง แสงเดินทางด้วยความเร็ว 299,792,458 เมตรต่อวินาที เสียงเดินทางด้วยความเร็วแค่ 300 เมตรต่อวินาทีขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ความหนาแน่นของอากาศ และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

.

7. ในหนัง :เห็นแสงเลเซอร์ในทุกที่

.

หนังชอบมีการใช้อาวุธเลเซอร์ยิงกันในอวกาศ ในหนัง แสงเลเซอร์จะเป็นสาย

ในความเป็นจริง เลเซอร์จะไม่ส่องแสง เมื่อสามารถเห็นแสงเลเซอร์ได้ ก็จะเห็นแค่เป็นอนุภาคกระจายไปตามเส้นทางของแสง การมองเห็นและสีของแสงเลเซอร์ขึ้นอยู่กับตัวนำที่มันเดินทางผ่าน ซึ่งก็มีทั้งอนุภาคฝุ่นและโมเลกุลอากาศ แล้วในอวกาศก็ไม่มีโมเลกุลอากาศด้วย

.

6. ในหนัง :รถระเบิดเร็วมาก

.

ดูเหมือนในหนังเนี่ย ไม่ว่ารถคันไหนชนกันก็จะเกิดระเบิดแรงมาก แค่ยิงตรงถังน้ำมันก็จะเกิดระเบิดให้รถไฟลุกท่วม

ในความเป็นจริง ปกติยานพาหนะมักจะไม่ค่อยติดไฟเมื่อเกิดการชน น้ำมันเป็นของเหลว เผาไหม้กลายเป็นไอน้ำ ดังนั้นน้ำมันในถังน้ำมันควรจะเป็นไอน้ำ ถ้ารวมกับอากาศในสัดส่วนที่พอเหมาะ ก็จะสามารถติดไฟทำให้รถระเบิดได้

.

5. ในหนัง :กระสุนปืนเดินทางด้วยความเร็วเท่ากันในน้ำ

.

จะมีซีนที่คนว่ายน้ำหลบกระสุนที่ยิงมา

ในความเป็นจริง ลูกกระสุนไม่พุ่งลงไปลึกมากกว่าสองสามฟุตในน้ำ แรงต้านหรือความต้านที่ของเหลวทำต่อการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ผ่านของเหลวต่อต้านการเคลื่อนไปข้างหน้าของกระสุน กระสุนเคลื่อนที่ได้ง่ายในอากาศ แต่เมื่อมันเจอกับผิวน้ำ การเคลื่อนที่ของมันก็จะเปลี่ยนไป

.

4. ในหนัง :หนุ่มเท่ๆ เดินออกมาจากการระเบิดโดยไม่หันไปมอง

.

ส่วนใหญ่ในหนัง ถ้ามีระเบิด ก็จะมีหนุ่มเดินออกมาจากการระเบิดโดยไม่หันกลับไปมอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง

ในความเป็นจริง แรงระเบิดจะฆ่าเขา พลังงานที่ออกมาจากการระเบิดทำให้เกิดคลื่นระเบิดซูเปอร์โซนิกที่แรงพอจะทำให้ตึกใหญ่ๆ ถล่ม และแน่นอนว่าคนก็ไม่รอด

.

3. ในหนัง :ได้ยินเสียงในอวกาศ

.

คนทำหนังมักใส่เสียงไปในซีนอวกาศ ถ้ามีซีนที่ยานอวกาศไล่ตามคนร้าย เราก็จะได้ยินเสียงยิง เสียงปล่อยมิสไซล์ และเสียงเครื่องยนต์ นั่นช่วยเพิ่มความรู้สึกและความน่าตื่นตาของฉากแอคชั่นให้กับหนัง

ในชีวิตจริง ไม่มีใครได้ยินเสียงในอวกาศ สิ่งที่เราเรียกว่า “เสียง” คือการสั่นสะเทือนของอากาศ ในเมื่ออวกาศไม่มีอากาศ ดังนั้นก็ไม่มีเสียง เหมือนที่โปสเตอร์หนัง Alien เขียนไว่ว่า “ในอวกาศไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของคุณ”

.

2. ในหนัง :กัมมันตภาพรังสีทำให้คนเรืองแสง

.

ในหนัง คนที่สัมผัสกับกัมมันตภาพรังสีจะเรืองแสงในความมืด และทุกคนจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนคนนั้น

ในความเป็นจริง ส่วนประกอบส่วนใหญ่ของกัมมันตภาพรังสีไม่ได้แพร่กระจายได้ง่าย กัมมันตภาพรังสีเป็นการระเบิดของนิวเคลียส ซึ่งทำลาย DNA อะตอมอื่นๆ ไม่ได้กลายเป็นกัมมันตภาพรังสีไปด้วย

.

1. ในหนัง :การกระโจนผ่านกระจกแตกไม่ใช่เรื่องใหญ่

.

หนังมักจะมีซีนที่คนหนีออกไปทางกระจกโดยที่ไม่มีรอยขีดข่วนอะไรเลย

ในความเป็นจริง หน้าต่างที่แตกมีมุมที่แหลมคมมากมาย เศษเหล่านี้จะกรีดใส่เสื้อผ้าและเนื้อตัว การทำกระจกแตกจะทำให้เกิดแรงต้านที่สามารถทำให้คนบาดเจ็บสาหัสได้

.

ที่มา : brightside | kidjarak