11 สิ่งของต้องคำสาป สุดเฮี้ยนที่น่ากลัวที่สุดในโลก เป็นเรื่องจริงที่ชวนขนหัวลุก

โลกเป็นสถานที่ที่น่ากลัวและสวยงามถ้าคุณรู้จักที่จะมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมาถึงวัตถุอาถรรพ์และผีสิงมีวัตถุที่เกิดขึ้นจริงออกมีที่สาปแช่ง เพื่อใชทำลายครอบครัว คนที่เกลียด จะถูกส่งไปให้คนอื่นเพื่อก่อให้เกิดความหายนะ เราไปชมกันครับวันนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมืดมน สิ่งของอาถรรพ์และสิ่งของที่เชื่อกันว่าต้องคำสาปมนต์ดำ กลายเป็นความเฮี้ยนบนโลกใบนี้

.

1. ชุดแต่งงานของ Anna Baker

.

เรื่องราวความรักต่างชนชั้นของ Anna Baker กับคนงานหนุ่มจากนั้นก็เหมือนนิยายรักทั่วไปที่ถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับคนที่คู่ควรแทน ซึ่ง Anna น่าจะเป็นคนหัวสมัยใหม่เพราะแทนที่จะยอมแต่งงาน แต่เธอขอเลือกคานซะมากกว่า เรียกว่าครองโสดจนระยะสุดท้าย

ส่วนชุดที่เลือกไว้แต่งกับคนรักนั้นก็ถูกเก็บลงตู้ จนกระทั่งชุดแต่งงานนั้นนำมาจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของ Blair County ในคฤหาสน์เดิม ที่ Anna เคยอยู่ โดยที่บางครั้งชุดแต่งงานนั้นจะสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งบางคนก็เชื่อว่านั่นเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน

.

2. The Anguished Man (ภาพวาดปีศาจ)

.

เจ้าของคือ Sean Robinson ซึ่งภาพวาด The Anguished Man นี้คือหนึ่งในมรดกที่เขาได้รับจากคุณยาย โดย 25 ปีก่อนได้รับมรดก ยายได้เล่าว่าภาพนี้เป็นภาพวาดปีศาจ เพราะศิลปินผู้วาดนั้นได้ใช้เลือดตัวเองผสมลงไปกับสี หลังจากวาดภาพเสร็จ ..ก็ฆ่าตัวตายนอกจากนั้นยายแกยังบอกอีกว่า บางครั้งก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้คร่ำครวญออกมาจากภาพ พอ Sean นำภาพมาติด..ลูกชายของเขาก็ตกบันได ภรรยาก็รู้สึกมาเหมือนมีใครมาลูบผม แต่ถึงจะเจอเรื่องแบบนี้ Sean ก็ยังคงไม่คิดจะขายภาพนี้ให้ใครทั้งนั้น

.

3. เก้าอี้ Busby

.

เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1702 เมื่อ Thomas Busby ถูกติดสินโทษประหารโดยการแขวนคอ คำขอสุดท้ายของเขาคือการนั่งทานอาหารให้ผับที่เขาชอบไปเป็นประจำ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา..ห้ามใครนั่งเก้าอี้ของเขาโดยเด็ดขาดไม่อย่างนั้นคนๆ นั้นจะไม่ได้ตายดี คนส่วนใหญ่ก็กลัวและไม่กล้านั่งเก้าอี้อีกเลย

และแน่นอนเมื่อมีคนกลัวย่อมมีคนกล้า ดาหน้าเข้ามาทดสอบความกล้าซึ่งล้วนแล้วแต่จบไม่ดีตามที่ Thomas พูดไว้เป๊ะ จนได้เก้าอีกนั้นถูกขนานนามว่าเป็น Chair of Death จนเจ้าของผับต้องตัดสินใจเก็บเก้าอี้ไว้ในห้องใต้ถุน แต่ก็ไม่วายมีเหยื่อโดนสังเวยไปอีก สุดท้ายเจ้าของผับจึงต้องส่งเก้าอี้นี้ไปให้พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในปี 1972 เก้าอี้ตัวนี้ถูกวางไว้สูงจากพื้นถึง 5 ฟุต เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนมานั่งอีกนั่นเอง

.

4. ผู้หญิงจากรูปปั้น Lemb

.

The Women from Lemb หรือ The Goddess of Death เป็นรูปปั้นทำจากหินบริสุทธิ์ถูกพบในปี 1878 คาดว่ามีอายุ 3500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ารูปปั้นนี้ใช้เพื่ออะไร หรือประกอบพิธีอะไร แต่ที่แน่ๆ มันคือสิ่งของหายนะที่ไม่ว่าไปตกอยู่กับใคร มักจะตายเรียบแบบไม่ทราบสาเหตุทุกรายไป ซึ่งเจ้าของคนแรกคือ ลอร์ด Elphont หลังจากได้รูปปั้นมาเขาและสมาชิกครอบครัวรวม 7 คน พากันเสียชีวิตกันหมดภายใน 6 ปี ต่อมาครอบครัวของ Ivor Manucci และลอร์ด Thompson-Noel ก็พากันเสียชีวิตหลังจากได้รูปปั้นมาเพียงไม่กี่ปี

หลังจากนั้นเจ้าของคนที่ 4 คือ เซอร์ Alan Biverbrook เมื่อได้รูปปั้นมา เขา ภรรยา และลูกสาว 2 คน พากันตายอย่างปริศนา ส่วนลูกชายอีก 2 คน ที่รอดมานั้นได้บริจาครูปปั้นให้กับ Royal Scottish ในเมือง Edinburgh แต่พอรูปปั้นถูกจัดตั้งหัวหน้าที่ดูแลรูปปั้นก็ตายลงทันที เลยยิ่งเพิ่มดีกรีความสยองของรูปปั้นนี้เข้าไปอีก จนถึงทุกวันนี้รูปปั้นก็ยังคงตั้งอยู่ที่เดิมแต่ไม่รู้ว่าจะมีใครถูกสังเวยด้วยรูปปั้นนี้อีกหรือเปล่า

.

5. เจมส์ ดีน

.

เจมส์ ดีน ดาราที่โด่งดังในยุคนั้น ได้รับอุบัติเหตุจากการขับรถปอร์เช่รุ่น 550 สไปร์เดอร์ ซึ่งเป็นรถคันโปรดของเขาคนขับคือช่างยนต์ของเขา ‘รอล์ฟ วูเทอริช แต่เจมส์ ดีน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่คนขับรอดแต่ก็มาเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอุบัติเหตุเช่นกันและหลังจากเจมส์ดีนเสียชีวิต รถ ปอร์เช่ 550 สไปร์เดอร์ (ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรถที่รู้จักกันทั่วโลกว่าเป็นรถของเจมส์ ดีน) ถูกนำนำมาซ่อมใหม่ และขายต่อเป็นทอดๆ และเจ้าของที่ได้รถคนนั้นไปก็ประสบชะตากรรมที่เคราะห์ร้ายต่างๆ นาๆ จนหลายๆ คนเชื่อว่ามันเป็นรถอาถรรพ์ เพราะเจมส์ดีนห่วงรถคนนี้มากๆ

.

6. Myrtles Plantation Mirror Plant

.

The Myrtles Plantation สถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมของตระกูล Woddruff ตั้งอยู่ในรัฐหลุยเซียน่า เรื่องเริ่มจากสาวใช้ชื่อ Chloe ที่ไปแอบได้ยินบทสนทนลับของเจ้านายเข้าจึงโดนเจ้านายจับเฉือนหู ตั้งแต่นั้นมา Chloe จึงต้องใช้ผ้าสีเขียวพัศีรษะไว้ตลอดเวลาเพื่อปิดบังแผลเป็น และเพื่อให้ได้ความไว้วางใจกลับคืนมาเธอจึงวางยาพิษคนในบ้าน เมื่อคนในบ้านป่วยโดไม่ทราบสาเหตุ จากนั้น Chloe จะเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยทุกคน..จนได้รับความไว้วางใจกลับคืนมา แต่เรื่องกลับตาลปัตร เพราะยาพิษที่ใส่ดันเกินขนาดจากที่ป่วยสามารถรักษาหายได้ ..เลยกลายเป็นว่าตายสนิททันที และด้วยความตระหนกChloe สารภาพเรื่องราวทั้งหมด ในที่สุดเธอก็ถูกแขวนคอให้ตายตามภริยาเจ้าของบ้าน และลูกสาวอีก 2 คน

ซึ่งตามประเพณีเมื่อมีคนตายในบ้านกระจกทุกบานจะถูกผ้าคลุมเอาไว้ ยกเว้น 1 บาน ที่ไม่ถูกคลุมเอาไว้ ซึ่งเป็นบานที่สามารถมองเห็นวิญญาณแม่ลูกตระกูล Woodruff ซึ่งถูกขังไว้ในกระจก หรือไม่ก็สาวใช้ Chloe กับผ้าโพกสีเขียวที่เธอใช้เป็นประจำนั่นเอง

.

7. The Dibbuk Box (กล่องอาถรรพ์)

.

กล่องไม้โบราณขนาดเล็กคล้ายตู้เก็บไวน์ ข้างในบรรจุเครื่องเซ่นเชื่อว่ากล่องนี้มีปีศาจร้ายสิงอยู่..ตามความเชื่อของชาวยิวโบราณ ผู้ครอบครองคนแรกคือ Kevin Mannis เขาซื้อมันมากจากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งของที่เธอวางขายนั้นล้วนแล้วเป็นของๆ คุณย่าเธอที่เพิ่งเสียไป อีกทั้งยังเป็นกล่องที่ย่าหวงมาก เก็บไว้บนที่สูงตลอด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามเปิด Kevin พอได้ฟังก็ตั้งท่าจะคืน แต่คนขายไม่รับซะงั้น เลยถือโอกาสให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่แม่เขาแทน

แต่แล้วเรื่องประหลาดก็ตามมา เมื่อเขาเก็บกล่องนี้ไว้ที่ร้านขายของๆเขา ร้านก็เกิดระเบิดแบบไม่ทราบสาเหตุ และพอเขานำกล่องนี้ไปให้แม่เพื่อเป็นของขวัญ อยู่ๆดีแม่เขาก็ป่วยเป็นอัมพาต และหลังจากนั้นเมื่อนำกล่องนี้ไปให้ใคร เป็นอันต้องถูกส่งคืนกลับมาแทบทุกราย และเมื่อเอากลับมาไว้ที่บ้าน Kevin ต้องฝันร้ายถึงหญิงแก่หน้าตาอัปลักษณ์ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า พร้อมกับรอยแผลเมื่อลืมตาตื่น ตอนแรก Kevin คิดจะทำลายกล่องนี้ แต่ก็คิดได้ว่าหายนะยิ่งกว่านั้นอาจมาเยือน เลยต้องกำจัดเจ้ากล่องนี้ด้วยการขายทอดตลาด และแน่นอนว่าทุกคนที่ครอบครองต้องเจอกับเรื่องประหลาดไม่จบไม่สิ้น

จนถึงมือเจ้าของคนสุดท้าย Jason Haxton ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ Osteopathic Medicine ที่บอกว่าตัวเขาเองก็เจอเรื่องแปลกๆ ไม่ต่างกัน จนตอนนี้ชินกับมันซะแล้ว แถมยังเขียนหนังสือ The Dibbuk Box ให้เราอ่านเล่นๆ กันอีกด้วย…นับถือความชินของเฮียแกเลยจริงๆ

.

8. ภาพวาดเด็กร้องไห้ Crying Boy

.

The Crying Boy หรือภาพชุดเด็กชายร้องไห้ เป็นตำนานของประเทศอังกฤษ ที่เชื่อว่าหากบ้านใดที่มีรูปชุดเด็กชายที่วาดโดย จี บราโกลิน จิตรกรชาวสเปน อยู่ที่บ้านละก็ บ้านนั้นจะมีแต่ความโชคร้าย แม้ภาพเหล่านั้นจะเป็นของก็อปปี้ก็ตาม หลายคนเชื่อกันว่าที่มาของคำสาปนี้มาจากผู้วาดคือ จี บราโกลินที่ได้วาดรูปนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1969 โดยต้นแบบคือ เด็กชายที่วิ่งเล่นอยู่บนท้องถนนในกรุงมาดริด ซึ่งเซวิลล์พบเข้าโดยบังเอิญขณะ กำลังเดินเล่น ตอนนั้นเด็กไม่ยอมพูดและมีดวงตาที่เศร้ามาก เนื่องจากอดีตเด็กชายคนนี้ได้เห็นพ่อ และแม่ของตัวเองเสียชีวิตในกองเพลิงต่อหน้าต่อตา แต่ตัวเองหนีรอดมาได้

หลายคนได้เตือนให้ นักวาดคนนี้อย่าไปยุ่งเด็กคนนี้ เพราะที่ที่เด็กคนนี้อยู่มักจะมีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่แปลกประหลาดเกิด ขึ้นเสมอ เซวิลล์ไม่เชื่อคำเตือนและรับเด็กชายมาเลี้ยงดู นับแต่นั้นเขาก็ขายภาพวาดได้มากขึ้นและภาพชุดเด็กชายร้องไห้ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม กระทั่งวันหนึ่งก็เกิดไฟไหม้ขึ้นจริงๆ เซวิลล์โกรธมากจนออกปากไล่เด็กชายออกจากบ้าน และไม่มีใครเคยพบเห็นเด็กชายคนนี้อีกเลย คำสาปนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 กันยายน 1985

.

9. The eBay Haunted Painting (ภาพวาดผีสิงในอีเบย์)

.

ถูกประกาศขายในเว็บไซต์ eBay ในปี 2000 พร้อม caption บอกสรรพคุณว่าภาพนี้เป็นภาพอาถรรพ์ โดยสามีภรรยาชาวแคลิฟอร์เนีย ได้นำภาพนี้ไปติดไว้ในห้องนอนของลูกสาวตัวเอง จากนั้นไม่นานหนูน้อยก็กลับมาบอกพ่อแม่ว่า เด็กสองคนในภาพชอบออกมาทะเลาะกัน พอพ่อแม่ได้ฟังก็เริ่มขนลุกนิดๆ จึงติดกล้องที่มีเซนเซอร์จับภาพความร้อน จนได้ภาพหลอนที่เหมือนเด็กสาวในภาพ กำลังใช้ปืนจี้เด็กชายอยู่ ซึ่งคนเข้าไปดูภาพนี้ถึง 30,000 ราย และหลายรายที่คลิกเข้าชมภาพต่างก็รู้สึกถึงความอึดอัดชวนสยอง บางคนถึงกับสลบไปเลยก็มี จนถูกขนานนามว่าเป็น ‘The eBay Haunted Painting’

สุดท้ายมันก็ไปอยู่ในมือเจ้าของแกลเลอรี่ Perceptions และได้ติดต่อกับ Bill Stoneham จิตรกรเจ้าของผลงานสุดสยอง โดยที่เจ้าของผลงานเองก็ยังอึ้ง เพราะความจริงแล้วภาพนั้นคือตัวเขาเอง กับเด็กสาวข้างบ้านเมื่อตอนเยาว์วัย ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้กลายเป็นภาพอาถรรพ์ซะนี่

.

10. Robert Doll (ตุ๊กตาโรเบิร์ต)

.

เจ้าของคือ Robert Eugene Otto ซึ่งตั้งชื่อตุ๊กตาที่ได้รับเมื่อตอน 6 ขวบให้เหมือนชื่อตัวเอง โดยที่ Eugene มักจะใช้เวลาทุกวันในการคุยกับ Robert ต่อมาเขากลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง และ Robert ก็ยังอยู่เคียงข้างเขาเหมือนเคย แต่พอแต่งงานภรรยาของ Eugene รู้สึกว่า ตุ๊กตา Robert นั้นมีพลังบางที่น่าขนลุก จึงนำมันไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ แต่หลังจากนั้น Eugene ก็บอกกับเธอว่าตุ๊กตา Robert มาเข้าฝัน เนื่องจากโกรธที่เธอนำมันไปเก็บไว้ในห้องที่มืดสนิท และด้วยความกลัวเธอจึงต้องมันไปวางไว้บนห้องใต้หลังคา ชั้น 3 ของบ้าน และนั่นทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาหน้าบ้าน Eugene ถึงกับต้องขนลุกซู่ เพราะชาวบ้านมักจะเห็นตุ๊กตา Robert เดินผ่านแว๊บไปมาที่หน้าต่าง นอกจากนั้น Eugene ก็เริ่มมีอาการเสียสติ ขว้างปาข้าวของและบอกแต่ว่า Robert เป็นคนทำ

ในที่สุด Eugene ก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1974 ซึ่ง Robert ก็ยังอยู่เคียงข้างเขาเหมือนตอนยังเยาว์เช่นเคย และพอมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เมื่อใด ตุ๊กตา Robert ก็จะแผลงฤทธิ์จนอยู่ไม่ได้ทุกทีไป สุดท้าย ตุ๊กตา Robert จึงต้องโดนระเห็จไปอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ East Martello ตามระเบียบ โดยที่ผมของตุ๊กตา Robert ค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ เสมือนพลังที่กำลังถดถอยและหายไปในที่สุด

.

11. Annabelle (ตุ๊กตาผีสิง)

.

จากตุ๊กตาธรรมดาหน้าตาน่ารักที่คุณแม่ซื้อให้ ‘ดอนน่า’ ลูกสาวของเธอ แต่พอดอนน่านำมันไปไว้ในที่อพาร์ทเม้นท์เท่านั้นแหละ มันก็ออกลายกลายเป็นตุ๊กตาผีสิงไปทันที อย่างเช่น ตุ๊กตามาโผล่ในห้องนอนทั้งๆที่วางไว้ที่อื่น เขียนโน้ตถึงดอนน่า แหละหยดเลือดบนหลังมือของตุ๊กตาแอนนาเบลล์ ดอนน่าและเพื่อนๆ อีก 2 คน ที่พักในห้องเดียวกันเริ่มทนไม่ไหวในที่สุดก็ไปพึ่งร่างทรงที่บอกว่า ตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณเด็กสาวอายุ 7 ขวบ ตายในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้สิงอยู่ และชอบดอนน่ากับเพื่อนๆ มาก จึงอยากจะขออยู่ด้วย ด้วยความสงสารเด็กสาวก็ให้ตุ๊กตาตัวนั้นอยู่ที่ในอพาร์ทเม้นท์ต่อไป แต่ ‘ลู’ เพื่อนที่พักห้องเดียวกัน เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด และไม่ชอบตุ๊กตาตัวนี้เอามากๆ เช่นเดียวกับตุ๊กตาที่ไม่ชอบลูเหมือนกัน และมันก็เริ่มโจมตีลู

จนท้ายที่สุด..ต้องขอความช่วยเหลือจาก เอด และ ลอร์เรน วอร์เรน นักปีศาจวิทยา พอตรวจสอบก็พบว่า ตุ๊กตาถูกชักใยด้วยพลังงานชั่วร้าย ซึ่งมันไม่ได้อยากสิงตุ๊กตา แต่มันต้องทำร้าย และฆ่าคนให้ตายเพื่อที่จะสิงร่างคนต่างหาก จากนั้น เอด และ ลอร์เรน วอร์เรน จึงต้องนำแอนนาเบลล์กลับไปเพื่อทำพิธี แต่ก็ยังคงออกอาละวาดอยู่เรื่อยๆ ออกจากห้องที่ล็อคไว้บ้าง พอกลับมาก็เจอแอนนนาเบลล์นั่งอยู่บนโซฟาบ้าง จนในที่สุดต้องทำกล่องพิเศษขึ้นมาเพื่อเก็บแอนนนาเบลล์โดยเฉพาะ และตั้งไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ภายในบ้านตระกูลวอร์เรนร่วมกับของชิ้นอื่น และก็พบว่าแอนนาเบลล์ไม่ออกไปหาเรื่องใครอีกเลย

.

ที่มา : pantip