กุ๊กร้านเก่าแก่กลางกรุงช็อก หมดสติ คนแห่ไปกินก่อนปิดกิจการ

ร้านอาหารสไตล์กุ๊กช็อป หรือร้านอาหารฝรั่งปรุงแบบสไตล์จีน โดยพ่อครัวชาวจีน ซึ่งมักไม่ค่อยได้เห็นในบ้านเรา ร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านในระดับตำนาน โดยเปิดมากว่า70ปี ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งก่อนจะปิดกิจการในสิ้นปีนี้ จึงมีลูกค้าแห่ไปกินกันมากมาย จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

โดยผู้ใช้เฟซบุ้ค Song Sapanya ได้นัดทานข้าวกับเพื่อนๆที่้ร้านนี้ และเป็นหนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ได้เล่าว่า

“ประสบการณ์กินอาหารที่พีคที่สุดในชีวิต…
ขณะที่กำลังรออาหารจานสุดท้าย ที่ร้านย่งหลี ร้านอาหารจีนประวัติยาวที่กำลังจะปิดในวันสิ้นปีนี้ พวกเราเฝ้ารอปูผัดผงกระหรี่อย่างหิวโหย เพราะรอมานานมาก (สั่งตอน 18.20 แต่ได้จานแรกประมาณ 19.15 น.) และตอนนี้เวลาเกือบ 20.30 แล้ว โต๊ะอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้คนที่ประสบภัยของการรอคอยก็คอยชะเง้อ รอลิ้มรสอาหารจานเด็ดเช่นกัน ทันใดนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น..

ท็อปกุ๊กที่ช่วงนี้ก็ป่วยจนเดินไม่ได้อยู่แล้ว กลับช็อกจนเป็นลม ล้มหมดสติไป! แม่ครัวคนอื่นที่เป็นพี่น้องทุกคนก็พากันตื่นตระหนก ตกใจ ร้องไห้ ลูกค้าทั้งร้านก็ช็อก มองหน้ากันเลิ่กลัก ทำอะไรไม่ถูก คนที่พอมีสติก็ช่วยกันเรียกรถพยาบาล เรียกรถแท๊กซี่ เคลียร์พื้นที่และปั๊มหัวใจเบื้องต้น (โดยเฉพาะสมาชิกร่วมโต๊ะเราที่มีสติและน้ำใจดีมาก ทั้งช่วยเคลื่อนย้ายคนป่วย ไปส่งที่รพ. ให้ยาดม ช่วยปั๊มหัวใจ)
นับว่าเป็นเหตุการณ์การทานอาหารที่ตกใจและสะเทือนใจไม่เบา ยิ่งที่ตอนหลังมารู้ว่า แม่ครัวที่ทำอาหารแสนอร่อยให้เรากิน กลับยุ่งจนไม่ได้กินข้าวทั้งวัน ตั้งแต่ตีห้า เพราะลูกค้าเยอะมาก… ก็ยิ่งพาลทำให้รู้สึกอึนๆ แบบทวีคูณ

หลังจากที่เหตุการณ์กลับสู่ความสงบ ลูกค้าโต๊ะอื่นทยอยช่วยกันคิดเงินโต๊ะตัวเองและเดินออกจากร้านไปอย่างห่วงๆ โต๊ะเราเป็นโต๊ะเดียวที่กลับมานั่งกินอาหารให้หมดเกลี้ยงจาน อาจจะเพราะได้รับรู้ว่าอาหารจานนี้แลกมาจากอะไร จนทำให้รู้สึกว่าถึงจะอิ่มแค่ไหนก็ไม่อยากกินเหลือ.. และนี่คงเป็นการตอบแทนแบบเดียวที่เราจะทำให้พวกเขาได้ในสถานการณ์แบบนี้

ย่งหลีบอกกับพวกเราว่าจะเปิดถึงวันที่ 31 เป็นวันสุดท้าย แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้แล้วก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง…. แต่ในฐานะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็บอกเลยว่า พักเถอะค่ะ ปิดเถอะ หายดีแล้วค่อยมาเปิดใหม่ก็ได้

ส่วนถ้าเค้ากลับมาเปิดแล้วใครมีโอกาสได้กินก็ใจเย็นๆ นะคะ อย่าไปเร่งอาหารมาก อาหารอาจจะช้าหน่อย แต่อร่อยแน่นอน ฮือ อาหารที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพของคนอื่นนี่ไม่คุ้มเลย…จริงๆ นะ

ปล.พรุ่งนี้เช้าจะแวะไปถามไถ่อาการดู

และล่าสุดทางเพื่อนผู้ใช้เฟซบุ้คนี้ ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า ทางร้านได้ปิดกิจการถาวรแล้วตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 60

ที่มา : Song Sapanya , proom