สื่อต่างประเทศได้รายงานถึงวิธีการหลบหนีออกนอกประเทศที่โลกต้องตะลึง ของผู้ที่มีคดีฉ้อโกงสุดอื้อฉาวในแวดวงรถยนต์ญี่ปุ่น
คาร์ลอส กอสน์ (Carlos Ghosn) อดีตประธานนิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น วัย 65 ปี ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศญี่ปุ่น ไปโผล่ที่ประเทศเลบานอนด้วยวิธีการน่าตกตะลึง โดยเขาแอบซ่อนตัวในกล่องเครื่องดนตรีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ก่อให้เกิดความสงสัยขึ้นมากมายว่า เขาหลบหนีออกจากที่พักที่มีตำรวจจับตาดูอยู่ได้อย่างไร และใครเป็นผู้มีส่วนช่วยเหลือในแผนการครั้งนี้
ตามรายงานระบุว่า แผนการเริ่มขึ้นจากนายกอส์น ได้ว่าจ้างนักกลุ่มดนตรีให้มาเล่นที่บ้านพักระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ ในกรุงโตเกียว แต่แท้จริงนักดนตรีกลุ่มนั้นเป็นอดีตกองกำลังพิเศษจากเลบานอนปลอมตัวมา และเมื่องานเลี้ยงจบลง นายกอส์น ผู้มีความสูง 173 เซนติเมตร ได้เข้าไปซ่อนในกล่องดับเบิลเบสขนาดความยาว 180 เซนติเมตรที่นักดนตรีนำมาด้วย ก่อนจะถูกพาออกจากบ้านพัก เชื่อว่าแผนอันแยบยลนี้น่าจะมาจากนางแคโรล ผู้เป็นภรรยาของเขา
คาร์ลอส กอส์น และภรรยา
กล่องเครื่องดนตรีดับเบิลเบสที่คาดว่าใช้เป็นที่ซ่อนตัว
หลังจากหลบหนีออกมาได้สำเร็จ เขาถูกพาตัวไปยังสนามบินท้องถิ่นในกรุงโตเกียว และขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปที่ประเทศตุรกี ก่อนที่จะบินต่อไปยังกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน โดยระหว่างที่เขาหลบซ่อนตัวนั้นเจ้าหน้าที่กลับไม่พบพิรุธแต่อย่างใด
อดีตประธานผู้อื้อฉาวถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงินบริษัทของนิสสันราว 14 ล้านปอนด์ (550 ล้านบาท) เพื่อมาซื้อบ้านพักหรูในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน นครริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล รวมถึงเพนต์เฮ้าส์สุดหรู มูลค่า 2.7 ล้านปอนด์ (106 ล้านบาท) ในกรุงโตเกียว
.
หลังจากถูกจับกุมตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2018 เขาใช้เงินประกันตัวด้วยวงเงิน 10.5 ล้านปอนด์ (414 ล้านบาท) และตามเงื่อนไขการประกันตัว เขาจะต้องถูกยึดพาสปอร์ต และอยู่ในบ้านพักซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับตามองตลอด 24 ชั่วโมงระหว่างรอการพิจารณาคดีในเดือนเม.ย.ปีหน้า และถูกสั่งห้ามไม่ให้ภรรยาเข้าเยี่ยมโดยไม่ได้รับอนุญาต
บ้านพักในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน
และเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 ธ.ค. นายกอส์น ยืนยันว่าเดินทางถึงเลบานอนเรียบร้อยแล้ว พร้อมออกแถลงการณ์ว่า ตัวเขาจะไม่ยอมตกเป็นตัวประกันของระบบยุติธรรมที่ตุกติก และการเลือกปฏิบัติทุกวิถีทาง
“ผมไม่ได้หนีกระบวนการยุติธรรม แต่ผมหลบหนีความไม่ยุติธรรมและการกดขี่ทางการเมือง และตอนนี้ผมสามารถสื่อสารกับสื่อได้อย่างอิสระแล้ว และคาดว่าจะเริ่มในสัปดาห์หน้า”
ทางทนายความของเขาเองก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่ลูกความของเขาหนีไปได้อย่างไร ทั้งที่พาสปอร์ต 3 ชาติของเขาทั้งบราซิล ฝรั่งเศส และเลบานอนโดนยึดทั้งหมด