เรื่องจริงของ ‘Anneliese Michel’ หญิงสาวที่ถูกผีสิงนานถึง 10 เดือน ผ่านพิธีกรรมกว่า 67 ครั้ง

สำหรับใครที่เป็นแฟนๆ หลังสยองขวัญคงจะรู็จักหนังเรื่อง The Exorcism of Emily Rose กันเป็นอย่างดี โดยได้รับได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ Anneliese Michel เด็กหญิงที่ว่ากันว่าถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงนานกว่า 10 เดือน และได้รับพิธีกรรมไล่ผีถึง 67 ครั้งจนถึงขั้นเสียชีวิต

.

ครอบครัวตระกูล Michel

.

Anneliese Michel เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน ปี 1952 ในชุมชน Leiblfing ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี เธอเติบโตในครอบครัวของคุณพ่อ Josef และคุณแม่ Anna ผู้เคร่งครัดศาสนาคริสต์ นิกายคาโรมันคาทอลิก พร้อมกับพี่สาวและน้องสาวอีกสามคน

เธอใช้ชีวิตอย่างปกติจนกระทั่งในปี 1968 เมื่อเธอมีอายุ 16 ปี เธอเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ อย่างเช่นเป็นลมล้มลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ปัสสาวะบนที่นอน และอาการก็เริ่มแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ

ทางครอบครัวจึงพาเธอเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จนได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคลมชักชนิดรุนแรง โดยพักรักษาในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมารักษาต่อที่บ้าน

.

ภาพของ Anneliese Michel ในช่วงที่ยังมีชีวิตปกติ

.

จากนั้นเธอก็ได้รับประทานยาเพื่อประคองตัวให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ จนสามารถเรียนจบชั้นมัธยมปลายและสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยได้ แต่ทว่ายาที่ได้รับมาตลอด 5 ปีนั้น ไม่ได้ช่วยให้อาการของเธอหายขาดแต่อย่างใด

จนกระทั่งในปี 1973 อาการของเธอทรุดลงหนักยิ่งกว่าครั้งแรก และเป็นจุดเริ่มต้นของอาการหลอนประสาท ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง เธอมักจะได้ยินเสียงแปลกประหลาด และเริ่มเห็นภาพหลอนของปีศาจ

.

สภาพของ Anneliese หลังจากที่อาการป่วยของเธอเริ่มรุนแรงขึ้น

.

ด้วยความที่ Anneliese เติบโตในครอบครัวเคร่งศาสนา เธอจึงถูกบังคับให้ปฎิบัติตามหลักคำสอนอย่างเคร่งครัด แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์แปลกๆ นี้ เธอกลับมีอาการต่อต้านศาสนวัตถุอย่างไม้กางเขน

แม้ว่ามีหลายเสียงต่างบอกให้รับการรักษาจากแพทย์ แต่พ่อแม่ปักใจเชื่อในด้านศาสนามากกว่า และได้รับการโน้มน้าวจากเพื่อนของ Anna ผู้เคร่งศาสนาเช่นกัน จึงได้ขอร้องไปทางโบสถ์ให้มาช่วยทำพิธีกรรมไล่ผีแทน

.

.

ในปี 1975 กระบวนการพิธีกรรมไล่ผีจึงเกิดขึ้น โดยทางพ่อแม่และพระผู้ทำพิธีต่างเชื่อว่า Anneliese ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง มีครั้งหนึ่งที่เธอพูดออกมาว่า ถูก Judas, Nero, Hitler, Cain, Lucifer และวิญญาณร้ายอื่นๆ สิงสู่อยู่ในตัวเธอ

มีการกล่าวอ้างว่าเธอสามารถพูดได้หลากหลายภาษา (อันเนื่องมาจากวิญญาณร้ายที่เข้าสิง) แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการกรีดร้อง โหยหวนที่แทบจะจับใจความไม่ได้เลย ในระหว่างการทำพิธีกรรมไล่ผีในแต่ละครั้ง

.

.

ทางด้านสองนักบวช Ernst Alt และ Arnold Renz จึงได้เข้ามาทำพิธีให้กับ Anneliese เป็นประจำ สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งตลอดระยะเวลาในการทำพิธี อาการของเธอก็ยิ่งทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ

ซึ่งพฤติกรรมแปลกๆ ของเธอในครั้งนี้เริ่มรุนแรงมาก มีบางครั้งเธอก็เลียที่ปัสสาวะของตัวเอง กินแมลง และเคยแอบหลบอยู่ใต้โต๊ะของห้องครัว เห่าหอนเหมือนสุนัขเป็นระยะเวลากว่า 2 วัน

.

.

หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 10 เดือน เธอได้เข้าพิธีกรรมไล่ผีถึง 67 ครั้ง และตลอดระยะเวลาการเข้าร่วมพิธีกรรมดังกล่าว ร่างกายของเธอนั้นมีร่องรอยความเจ็บปวดมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นฟันที่หัก รอยคล้ำใต้ดวงตา และร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย เนื่องจากถูกล่ามด้วยโซ่ในระหว่างทำพิธี

นอกจากนี้น้ำหนักของเธอยังลดลงเหลือแค่เพียง 30 กิโลกรม ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 23 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1976 ด้วยสาเหตุของการขาดน้ำและขาดสารอาหาร

.

ภาพของพ่อแม่และสองนักบวชผู้ประกอบพิธีไล่ผี

.

จนกระทั่งในปี 1978 ทางการได้ทำการสอบสวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งเสียงที่ถูกบันทึกไว้ระหว่างทำพิธี ภาพระหว่างการทำพิธี ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่าลูกสาวของพวกเขานั้นถูกผีเข้าสิงจริง

แต่ทางศาลถือว่าเป็นหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะสภาพของเธอนั้นอยู่ในอาการป่วยขั้นรุนแรง และไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ทำให้พ่อแม่และนักบวชที่ประกอบพิธีไล่ผี ได้รับโทษจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 3 ปี ข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา…

.

.

และในปี 2005 คุณ Anna ผู้เป็นแม่ของ Anneliese ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Telegraph เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตตอนนั้น เพราะเธอไม่คิดว่าจะมีวิธีใดช่วยลูกสาวของเธอได้อีกแล้ว

.

“Anneliese เป็นเด็กหญิงที่น่ารักและดูสดใส แต่เธอถูกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้เธอเป็นแบบนั้น”

.

อย่างไรก็ตามอาการป่วยของ Anneliese นั้นก็ยังคงเป็นปริศนาและยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้ แต่สำหรับหลายๆ คนนั้น มองว่าเป็นอาการป่วยทางจิต และได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจนเป็นเหตุทำให้เธอเสียชีวิตในที่สุด

.

ที่มา historicmysterieswikipediabizarrepediablumhousetelegraphunilad, catdumb