ลูกค้าสุดงง ไปกินบุฟเฟ่ต์ชาบู เจอทางร้านขู่คิดเงินเพิ่ม 200 เพราะกินแต่เนื้อ ทำร้านขาดทุน

ตามที่เราเข้าใจ การกินบุฟเฟ่ต์คือการกินได้ไม่อั้น หรือ All you can eat แต่การไปกินบุฟเฟ่ต์ของลูกค้าคนนี้กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ก็คือ มีลูกค้าคนหนึ่งไปรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูร้านดังย่านพระราม 9 และได้ไปรีวิวไว้ที่เพจของร้านว่า ตนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะทางร้านข่มขู่ว่าจะคิดเงินเพิ่ม เนื่องจากกินเยอะเกินไปทำให้ร้านไม่ได้กำไร

ต่อมาทางร้านได้เข้าไปตอบกลับในคอมเมนต์ว่า

“ทานบุเฟ่แปลว่าทานหลากหลายไม่ใช่ทานแต่เนื้อ กุ้ง ไม่ทานอย่างอื่นเลยแบบนี้เรียกว่าทานเนื้อและกุ้งลวกไม่ใช่ชาบู คุณลองทำธุรกิจแล้วหากเจอพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่เป็นครั้งคราว

“ถ้าเป็นครั้งคราวเรารับได้แต่ทานแบบไม่จำกัดเวลา เนื้อขั้นต่ำ 6-12 จาน จานขนาด12นิ้ว เราทำธุรกิจ ถ้าคุณคิดว่าไม่ยุติธรรมกับคุณและมันยุติธรรมกับเราเหรอคะ ถ้ายังโพสให้ร้านเสียหายเราข้อใช้กฏหมายตัดสินแล้วกันนะคะ”

แต่ดูเหมือนการตอบกลับจะยิ่งเหมือนการราดน้ำมันบนลงบนกองไฟ ชาวเน็ตหลายคนต่างเข้าไปถล่มกันยับและงงกับตรรกะของเจ้าของร้าน

ทำนองว่า “บุฟเฟ่ต์มันคือการทานได้ไม่จำกัด แล้วแบบนี้จะทำบุฟเฟ่ต์ไปทำไม ถ้าจำกัดจานก็ขายแยกไปเลย”

จนล่าสุด ทางร้านได้ออกมาชี้แจงอีกครั้งตามนี้

“ขอชี้แจง จากเจ้าของร้านที่เป็นคนเดินเข้าไปขออนุญาตชี้แจงเรื่องขอปรับราคาสำหรับลูกค้าที่ทานแต่เฉพาะเนื้อ อย่างลูกค้าท่านนี้ คื่อลูกค้าท่านนี้มาบ่อยค่ะ มาเป็นระยะเวลา 3 ปีกว่าแล้ว ช่วงไหนมาบ่อยก็เดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เราดีใจที่คุณเค้ามาอุดหนุนอยู่เป็นประจำ และเชื่อว่าที่คุณเค้ามาอุดหนุนก็ด้วยสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราขายบริการร้านชาบู เช่น วัตถุดิบ ความสะอาด ความอร่อยและบริการ จึงทำให้ลูกค้าท่านนี้มาเป็นลูกค้าประจำ

“แต่ด้วยความชอบที่จะรับประทานของลูกค้าคือเนื้อล้วน เราจึงขออนุญาตแจ้งว่าถ้าลูกค้าต้องการทานแบบเดิมคือทานแบบไม่อั๋นเช่นเดิมตลอดมาที่เราให้บริการ เรายินดี แต่…คราวหน้าหลังจากวันนี้ เรามีนโนบายขอขึ้นราคาบุฟเฟ่เนื้อแบบไม่อั๋นทานเนื้ออย่างเดียวหรือรวมกุ้งล้วนอย่างเดียวเป็นราคา 549 หรือเพิ่มจากเดิม 200 บาท และไม่จำกัดเวลาเช่นเดิม วันนั้นที่ลูกค้ามาทาน เราเดินเข้าไปชี้แจง และชี้แจงว่าเราไม่สามารถขายในราคาเดิมได้เพราะอะไรให้ลูกค้าเข้าใจ

“ซึ่งเราก็ไม่ได้มีการข่มขู่ หรือเก็บเงินเพิ่มเลย เราก็ให้ลูกค้านั่งทานปกติ สั่งปกติต่อไป ซึ่งเราไม่ทราบว่าลูกค้าไม่เข้าใจหรือมีคำถามอื่นๆ ในใจอีกไหมแต่ลูกค้าไม่ถามแต่มีการรีวิวที่อยู่ข้างต้น เราเข้าใจว่าเป็นสิทธิของลูกค้าว่าจะทานอะไรมันก็อยู่ในราคาบุฟเฟ่แล้วเราเข้าใจดีและบริการด้วยดีมาตลอด

“แต่ในวันนั้นเราก็แค่ขออนุญาตแจ้งการปรับเปลี่ยนราคาเท่านั้น ก็แล้วแต่ทางลูกค้าจะพิจารณาว่าครั้งต่อไปจะมาทานหรือไม่ ในคุณภาพของอาหาร ความสะอาดและงานบริการของร้านเรา

“สุดท้ายที่แอดมินเขียนไปว่า ถ้ายังโพสให้ร้านเสียหายจะพึ่งพากฏหมายนั้น ก็ด้วยแอดมินกัวว่าลูกค้าจะโพสในพื้นที่สาธารณะทำให้ร้านเสียหายและทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดร้านได้ ซึ่งจะนำมาซึ่งการเสียชื่อเสียงของร้านที่เราตั้งใจในการให้บริการตลอดมาไม่ได้มีเจตนานำกฏหมาย มาขู่ลูกค้าแต่อย่างใด จึงเรียนชี้แจงมาให้ทราบ”

ซึ่งแน่นอน หลังจากร้านออกมาชี้แจงแล้ว ก็ยังคงเป็นกระแสทัวร์ลงอย่างต่อเนื่อง

.

บางคนก็บอกว่า ถ้าร้านกลัวขาดทุนจริง ๆ ก็ปรับราคาให้มีผลกับลูกค้าทุกคนเลย ไม่ใช่ปรับเฉพาะเจาะจงแค่รายคนแบบนี้

.

.

ซ้ำยังเป็นการทำร้ายชื่อเสียงแบรนด์ที่อุตส่าห์สร้างมาอย่างรุนแรง

.

แต่ล่าสุดโพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว