เด็กทำผลงานศิลปะแตก คิดว่าเป็นล้อรถเลยเอาไปกลิ้งเล่น แม่ขอใช้ครึ่งราคาเพราะลูกยังเด็ก

คุณค่าในทางศิลปะ ย่อมต้องมีคุณค่าทางจิตใจกับผู้สร้างอย่างที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เพราะผลงานที่ออกมานั้นต้องใช้ความเพียรในการสร้างสรรค์ทั้งแรงกาย แรงใจกว่าจะเกิดเป็นผลงานสักชิ้น

และก็เกิดความดราม่าขึ้น เมื่อมีเด็กได้ทำผลงานศิลปะที่ตั้งโชว์ตกแตก

เรื่องราวถูกโพสต์โดยผู้จัดงานศิลปะคนหนึ่ง เขาเล่าว่า ระหว่างที่มีการจัดงานศิลปะที่หอศิลป์ ในจังหวัดขอนแก่น มีผู้เข้าชมได้พาลูกมาด้วย และเกิดทำผลงานศิลปะที่ตั้งโชว์ตกแตก ทางแม่อ้างว่า ลูกคิดว่าเป็นล้อรถยนต์ เลยนำไปกลิ้งเล่น พร้อมกับขอชดใช้ค่าเสียหายในราคาครึ่งหนึ่ง โดยอ้างว่าลูกยังเด็กเลยซนไปหน่อย

โดยเขาบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดลงเฟซบุ๊ก Wiroon Kingpaiboon ว่า

“ในขณะที่ผมและทีมงานกำลังทำงานพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะบนชั้นดาดฟ้า น้องทีมงานในห้องนิทรรศการ ก็วิ่งมาบอกว่า ‘พี่ครับ มีคนทำงานศิลปะแตก’ ในนาทีนั้นคิดว่า เป็นกรอบรูปที่ตกลงมาแตก แต่เมื่อลงมาดูพบว่า…ไม่ใช่

“ชิ้นที่แตกเป็นงานศิลปะจัดวาง ของศิลปินรุ่นใหม่ ที่เพิ่งรับรางวัลศิลปกรรมรุ่นเยาว์มาหมาด ๆ (งานชิ้นนี้อยู่ในซีรีย์ที่ได้รางวัล) ภาพตรงหน้า ทำให้ผมเข่าอ่อน รู้สึกหน้าชา ใจไม่ดีเลย เจ้าของผลงานกำลังให้สัมภาษณ์บนเวทีเสวนาอยู่ เราจะบอกน้องเขาอย่างไร เขาจะรู้สึกอย่างไรนะ หลายคำถามผุดขึ้นมาในใจทันที

“เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบถามหาสาเหตุ พบว่าเป็นเด็กคนหนึ่งที่คิดว่า งานศิลปะเป็นล้อรถ เลยวิ่งมาผลักเล่น คุณแม่น้องเขาบอกว่า ขอโทษด้วย ลูกคิดว่าเป็นล้อรถ น้องเขาดื้อไปหน่อยพ่อเขาจับไม่ทัน”

“ผมที่ไม่เคยมีลูก เลยเข้าไม่ถึงเหตุผลนี้ เลยแก้ปัญหาด้วยการขอเบอร์โทรติดต่อคุณแม่น้องเขา แล้วบอกว่า เราขอคุยกับน้องศิลปินเจ้าของผลงานก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อ เสร็จพิธีเปิดงานแล้วค่อยคุยกัน

“ผมรีบขึ้นไปดูแลพิธีเปิดงานต่อ จริง ๆ แล้ว ก็อยากขึ้นมาพักใจ ไตร่ตรอง ขอคำปรึกษาทีมงาน ศิลปินและเพื่อน ๆ ก่อนว่าจะตัดสินใจแบบไหน

“เมื่อพิธีเปิดงานจบ น้องเจ้าของผลงาน กำลังพาประธานในพิธี อาจารย์ เพื่อน ๆ เขาลงไปชมผลงานนิทรรศการ ในห้องนิทรรศการ ก็ได้รับคำตอบว่าผลงานตัวเองเสียหาย ผมเห็นสีหน้าน้องเขา แล้วใจไม่ดีเลย เขาตัวสั่น พูดติดขัด บอกว่า ‘ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรครับพี่’ แต่ผมอ่ะ เป็นไปแล้ว…

“จู่ ๆ น้ำตาก็รื้นออกมา คิดในใจ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ แต่ภายนอกได้แต่นิ่ง แล้วพยายามแก้ไขเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ ผมบอกน้องเขาว่า ‘เดี๋ยวค่อบคุยกับคนทำงานแตกเนาะ’ น้องเขาลงมาเจอผลงานตัวเอง เขาก็เก็บผลงานให้เข้าที่เข้าทางผมเก็บภาพไว้ทันพอดี

“หลังจากนั้นแขกในงาน ประธาน อาจารย์ เพื่อน ๆ เขา ก็มาให้กำลังใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ จากนั้น….ผมก็กดโทรหาคุณแม่ของเด็ก ให้มาเจรจา คุณแม่น้องเขา ก็เกิดเดทแอร์หลายนาที ผมเสนอว่า ควรชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับราคาที่น้องเขาติดไว้

“ศิลปิน ตัวสั่น แล้วพยายามยิ้มให้คุณแม่น้องเขา แล้วบอกว่า ‘ผมไม่เป็นไร เข้าใจครับ ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ’ คุณแม่น้องเขาขอโทษ บอกว่า ‘น้องเขายังเด็ก ขอชดใช้ ครึ่งราคา’ หลังจากนั้น ผมไม่ขอเล่านะครับ มันไม่รู้จะเล่าแบบไหน”

#เรื่องเล่าในวันที่ใจบาง(ดราม่านะครับ ใครไม่ชอบกดข้ามเลย)รู้สึกว่า…ช่วงนี้ตัวเองใจบางมากๆ จนไม่กล้าไปดูหนัง…

โพสต์โดย Wiroon Kingpaiboon เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2019

 

ผู้จัดงานยังกล่าวต่อไปว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็มักจะมีความคิดขึ้นในหัวเสมอว่า ถ้าทุกคนต่างเห็นคุณค่าในศิลปะเหมือนกับที่มองเห็นคุณค่าในรถหรู ของแบรนด์เนมราคาแพง การเจรจาคงจะไม่ลงเอยแบบนี้ พร้อมฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดี และสิ่งที่จะบอกอยู่เสมอคือ

“การจัดการงานนิทรรศการศิลปะว่ายากแล้ว การสร้างวัฒนธรรมการชมงานศิลปะยากยิ่งกว่า”

ที่มา : Wiroon Kingpaiboon