เมื่อนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก มาทดสอบวิ่งแบบนารูโตะ จะช่วยให้วิ่งเร็วขึ้นกว่าปกติหรือไม่

แฟน ๆ การ์ตูนเรื่องนารูโตะ คงจะมีสิ่งหนึ่งที่ติดตาเหมือนเป็นกิมมิกของเรื่องไปแล้วก็คือ การวิ่งแบบนินจา ที่โน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยและยืดแขนทั้งสองไปด้านหลัง ซึ่งต่างจากการวิ่งแบบปกติที่ต้องยืดตัวตรง และแกว่งแขนทั้งสองข้างไปมา

จึงนำไปสู่ข้อสงสัยว่า การวิ่งแบบไหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน หรือท่าวิ่งแบบนารูโตะจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้นกว่าการวิ่งปกติหรือไม่

ช่องยูทูบ Because Science ซึ่งมีเจ้าของชื่อว่า Kyle Hill จะมาทำการทดลองให้เราได้รู้กัน

จะว่าไปแล้วตามหลักฟิสิกส์ การวิ่งแบบนารูโตะก็น่าจะช่วยให้วิ่งเร็วกว่าวิ่งแบบปกติ เพราะการโน้มตัวไปด้านหน้าจะช่วยลดแรงต้านของลม ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น Kyle ก็แย้งว่ามันไม่จริงเสมอไป เพราะท่าวิ่งแบบนารูโตะทำให้ไม่สามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มที่

แล้วแบบไหนหละจะเร็วกว่ากัน ?

ทางช่อง Because Science ได้เชิญนักวิ่งเจ้าของเหรียญทองวิ่งผลัดในกีฬาโอลิมปิก 2012 ชื่อว่า Jeneba Tarmoh มาร่วมทดสอบวิ่งแบบนารูโตะให้ดู

ทั้ง Kyle และ Jeneba Tarmoh จะมาวิ่งในระยะ 50 เมตร โดยวิ่งแบบนารูโตะและวิ่งธรรมดาอย่างละ 3 รอบ จากนั้นจะหาค่าเฉลี่ยเพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ Kyle ทำเวลาในการวิ่งแบบธรรมดาที่ 7.78 วินาที ส่วนท่าวิ่งแบบนารูโตะ 7.99 วินาที

ขณะที่ Jeneba ทำเวลาในการวิ่งแบบธรรมดาที่ 7.11 วินาที ส่วนท่าวิ่งนารูโตะ 7.3 วินาที

สรุปแล้วท่าวิ่งของเหล่านินจาไม่ช่วยให้วิ่งเร็วขึ้น แถมยังช้ากว่าท่าวิ่งปกติถึง 3% ด้วย

รวมถึงการวิ่งแบบนารูโตะนั้น ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่ายกว่า เพราะไม่มีการกระจายน้ำหนักตัวออกไป รวมถึงแขนที่ไม่ได้แกว่งจะทำให้สรีระร่างกายเสียสมดุล และหากล้มก็จะมีโอกาสบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ เป็นผลทางด้านจิตวิทยา เพราะการที่เรารู้ว่าท่าวิ่งแบบนารูโตะจะมีความอันตรายกว่าเดิม ทำให้จิตใจเราบังคับร่างกายให้วิ่งได้ช้าลง

คลิปการทดสอบแบบเต็ม ๆ

สรุปแล้วคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ที่ไม่มีจักระนินจา ก็ควรวิ่งแบบปกติจะดีที่สุดนะ

ที่มา : soranews24 , Hachima Kiko , Because Science