คำทำนายในหนังสือที่เขียนหลายปีก่อน มีคนนำมาเชื่อมโยงกับวิกฤตไวรัส นำไปสู่วันสิ้นโลก

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 คำปลอบประโลมให้กำลังใจคือสิ่งสำคัญในการฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน แต่ก็เกิดกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์ ที่มีคนกล่าวอ้างถึงหลักฐานต่าง ๆ เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับการระบาดของไวรัส ว่าจะนำไปสู่วันสิ้นโลก ยิ่งกลับเป็นสิ่งซ้ำเติมให้จิตใจดำดิ่งไปอีก

เรื่องของเรื่องเริ่มเป็นกระแสมาจาก คิม คาร์เดเชียน (Kim Kardashian) เซเลบคนดัง ได้โพสต์เนื้อหาบางส่วนในหนังสือชื่อว่า END of DAYS เขียนโดย ซิลเวียร์ บราวนี (Sylvia Browne) ไปโพสต์ลงในบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอ เป็นการพยากรณ์ว่าจะเกิดโรคระบาดร้ายแรงในปี 2020

เนื้อหาบางส่วนในหนังสือเขียนไว้ว่า

“ประมาณปี 2020 โรคร้ายแรงคล้ายปอดอักเสบจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก เชื้อโรคจะเข้าทำลายปอดและหลอดลม และเชื้อนั้นจะต่อต้านยารักษาทุกชนิดที่เคยมีมา และสิ่งที่สร้างความฉงนก็คือ มันจะหายไปเอง แต่จะกลับมาระบาดอีกครั้งในอีก 10 ปีต่อมา จากนั้นจะหายไปตลอดกาล”

ผู้เขียนได้อ้างว่า คำพยากรณ์มาจากการเห็นภาพนิมิตตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ ซึ่งเธอเขียนหนังสือเล่มนี้ไว้ในปี 2008 ก่อนที่จะเสียชีวิตไปในปี 2013

และจากกระแสข่าวดังกล่าว ส่งผลให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือขายดีอันดับ 2 บนเว็บไซต์ Amazon และราคาก็พุ่งสูงไปถึงหลายร้อยดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตจากเว็บไซต์ snopes.com ชี้ให้เห็นว่า เธออาจนำเหตุการณ์การระบาดของโรคซาร์สที่เกิดขึ้นไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น มาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้ของเธอ มิหนำซ้ำ ผู้เขียนยังทำนายผิดพลาดว่าตัวเองจะเสียชีวิตตอนอายุ 88 ปี แต่กลับเสียชีวิตในวัย 77 ปี

ซิลเวียร์ บราวนี นักเขียนชาวอเมริกัน ผู้เขียนหนังสือ END of DAYS

แม้ว่าหลายหน่วยงานของรัฐจะออกมาชี้แจงแนวทางปฏิบัติเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ดูเหมือนว่าก็ไม่อาจหยุดยั้งข่าวลือวันสิ้นโลกที่มีการแชร์ต่อเป็นลูกโซ่ได้

รวมถึงบางกลุ่มยังนำสถานการณ์ไวรัสที่เกิดขึ้นไปเชื่อมโยงกับภัยพิบัติอื่น ๆ เช่น เหตุการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย หรือภัยฝูงตั๊กแตนหลายล้านตัวที่บุกทวีปแอฟริกาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

(ภาพจาก-REUTERS)

ภายหลังกระแสข่าวลือดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายพยายามเรียกร้องให้มีการเผยแพร่สิ่งที่ช่วยยกระดับจิตใจ มากกว่าคำทำนายที่แสดงถึงจุดจบอันเลวร้ายที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย และพลอยแต่จะทำให้จิตใจห่อเหี่ยวลงไปอีก

ที่มา : cnn , dailymail