ทางการจีน ประจานคนใส่ชุดนอนออกมาเดินนอกบ้าน ตีตราว่า “ไร้อารยะ” ทำโซเชียลระอุ

ในช่วงไม่กี่ปีผ่านมา ประเทศจีนมีการจัดระเบียบสังคม และเพิ่มการตรวจตราครั้งใหญ่ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายร้อยล้านตัว ซึ่งทำงานเชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถจำแนกหรือระบุตัวตนว่าเป็นใครได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 วินาที เพื่อคอยสอดส่องประชาชนของพวกเขาไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย

แต่ก็เกิดความดราม่าขึ้นเล็ก ๆ และเป็นกระแสวิจารณ์ถึงมาตรการที่ทางการนำมาใช้ ซึ่งเหมือนเป็นการประจานกันมากกว่า

เพราะเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา สำนักบริหารเมืองซูโจวได้นำภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นชาวเมืองจำนวน 7 คนที่อยู่ในชุดนอนออกมาเดินตามพื้นที่สาธารณะ พร้อมระบุข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัว มาเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ WeChat

เจ้าหน้าที่สำนักบริหารเมืองซูโจวให้เหตุผลว่า ต้องการขจัดพฤติกรรม “ไร้อารยะ” เพื่อส่งเสริมให้บ้านเมืองมีความเจริญ ทันสมัยมากขึ้น

พร้อมทั้งยังตีแผ่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ เช่น การนอนในที่สาธารณะในลักษณะไร้อารยะ เร่ขายของบนท้องถนน เดินแจกใบปลิว หรือแม้แต่การเดินจูงหมาเดินเล่น

นอกจากนั้น ยังมีการมอบเงินรางวัลตอบแทนจำนวน 10 หยวน (44 บาท) ให้กับผู้ส่งภาพถ่ายของชาวเมืองที่ใส่ชุดนอนมาให้กับทางการ และนำไปสู่การติดตามตัวคนนั้นมาได้

แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ลบภาพถ่ายดังกล่าวออกหลังจากโพสต์ไปไม่นาน และกล่าวขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวเสริมว่า ต้องการหยุดพฤติกรรมไร้อารยะ แต่กลับเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคล ทำให้ชาวเมืองเกิดความอับอาย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

บางคนถึงกับบอกว่า แค่ใส่ชุดนอนออกมาเดินข้างนอก แต่กลับถูกตีตราราวกลับเป็นฆาตกรซะอย่างนั้น

แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ในงาน World Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้ เจ้าหน้าที่ก็เคยกีดกันชาวเมืองที่ใส่ชุดนอนออกมาเดินนอกบ้านมาแล้ว โดยมองว่าเป็นการกระทำที่ไร้อารยะ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

และก่อนที่จะเกิดประเด็นดราม่าชุดนอน เมื่อไม่นานมานี้ ทางการของจีนก็เคยสั่งแบนพฤติกรรมที่ถกเสื้อขึ้นมาโชว์ให้เห็นพุง หรือที่เรียกว่า Beijing bikini ซึ่งผู้ที่ทำให้เหตุผลว่า เพื่อช่วยระบายความร้อน

ที่มา : mothershipradiichina , dailymail , odditycentral