ความพยายามขั้นสุดของชายหนุ่มผู้อยากได้ขนมโปรดชิ้นสุดท้ายมาครอบครอง แต่ติดที่ว่าขนมชิ้นนั้นแฟนสาวของเขาก็หมายตาไว้ด้วยเช่นกัน จึงเกิดเป็นเรื่องราวนี้ขึ้นมา
เมื่อทั้งคู่ต่างชอบกินขนม โดริโทส เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากอยู่ในช่วงภาวะปกติ การจะออกไปหาซื้อขนมสักถุงก็คงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร แต่เมื่อต้องอยู่ในสภาพที่ต้องกักตัวแบบนี้ ขนมชิ้นสุดท้ายจึงเป็นสิ่งล้ำค่า ต่างฝ่ายต่างเกี่ยงกันโดยไม่มีใครยอมว่าใครจะได้กินชิ้นสุดท้ายนี้ไป จนในที่สุด ทั้งคู่ก็ตัดสินใจนำขนมชิ้นนั้นไปเก็บไว้ในฝาครอบแก้วซะเลย
อารมณ์ประมาณว่า ชั้นไม่ได้กิน เธอก็ไม่ต้องกินด้วย
แต่ในเมื่อคนมันอยากกิน แผนการอันชั่วร้ายของชายหนุ่มก็ได้เริ่มต้นขึ้น เขาได้วางแผนเพื่อให้แฟนสาวเชื่อว่าขนมชิ้นที่ทั้งคู่ต่างหมายปองนั้นยังอยู่ดี
โดยการทำขนมโดราโทสของปลอมนี้ขึ้นมาด้วยกระดาษทิชชู่
ดูออกไหมว่าชิ้นที่เขาถืออยู่มือ แท้จริงแล้วเป็นเพียงกระดาษทิชชู่เปียกน้ำถูกทาด้วยสีเหลือง ซึ่งทำขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยมให้เหมือนรูปทรงของขนมโดริโทส
จากนั้นก็นำไปเข้าเตาอบเพื่อให้แข็งตัว
เก็บรายละเอียดด้วยสีต่าง ๆ และหากาวมาทาเพิ่มเติมเพื่อให้เหมือนของจริงที่สุด
และเพื่อความแนบเนียนในขั้นสุด เขาได้นำผงปรุงรสที่อยู่ในซองขนมมาทาตรงผิวด้วย
.
ลงทุนอะไรเบอร์นั้น
สุดท้ายได้ออกมาแบบนี้ เป็นภารกิจที่เสร็จสมบูรณ์ในเวลา 3 ชั่วโมง
จากนั้นก็รอเวลาที่แฟนสาวของเขาเผลอ แล้วหยิบขนมของจริงออกมา สลับกับเอาของปลอมไปใส่ไว้แทน
ส่วนขนมของจริงก็เข้าไปอยู่ในท้องของพี่แกเรียบร้อยแล้ว
และจนถึงขณะนี้ แฟนสาวของเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าขนมโดริโทสชิ้นนั้นลงไปอยู่ในกระเพาะของพ่อตัวดีไปแล้ว แม้เธอจะสังเกตว่า เตาอบขนมปังเหมือนถูกคนมาทำความสะอาด แต่ก็ยังไม่พบพิรุธอื่น ๆ
หนุ่ม Chuck McCarthy เจ้าของความคิดอันร้ายกาจนี้ บอกว่า
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราอาจต้องการอะไรฮา ๆ แบบนี้ และถ้าถึงตอนที่ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ แฟนของผมจะกินสักกี่ห่อก็สุดแล้วแต่เธอเลย ผมจะยอมตามใจเธอทุกอย่าง”
แต่ตอนนี้ ชิ้นสุดท้ายขอเป็นของเขาไปก่อนแล้วกันนะ
ที่มา : Chuck McCarthy , boredpanda
