100 ความจริงเกี่ยวกับ แฮร์รี พอตเตอร์ ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

1. มีตัวละคร 772 ตัวที่ถูกพูดถึงในนิยายชุดนี้

2. เจ.เค.โรว์ลิ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า เฟร็ด เป็นตัวละครที่เธอชอบที่สุด เมื่อต้องเขียนฉากเฟร็ดตาย เธอก็เสียใจมากจนร้องไห้ออกมา

3. โรว์ลิ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่าแพนซีย์ พาร์คินสัน ไม่มีทางได้แต่งงานกับเดรโก มัลฟอยแน่นอน เพราะแพรนซีย์เป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงที่เคยล้อเลียนโรว์ลิ่งสมัยเด็ก เป็นขั้วตรงข้ามของเฮอร์ไมโอนี่

.

4. ช่วงเวลาเดียวที่เฟร็ดกับจอร์จได้แก่ไปด้วยกันคือตอนที่พวกเขาใช้ยาโกงอายุเพื่อใส่ชื่อลงแข่งในถ้วยอัคนี ถ้วยเลยปล่อยเวทมนตร์ที่ทำให้พวกเขาแก่สมใจ

.

5. ในหนัง ฉาก 19 ปีให้หลัง คนที่เล่นเป็นภรรยาของเดรโก มัลฟอยคือแฟนตัวจริงนอกจอของทอม เฟลตันเอง

.

6. โรว์ลิ่งเป็นคนตัดสินใจเลือก แม็กกี้ สมิธ มาแสดงเป็นมักกอนนากัลเอง

 

7. ศาสตราจารย์ลูปิน คือตัวแทนของผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะกลัวถูกแบ่งแยก

8. นิตยสาร Forbes ได้จัดให้โรว์ลิ่งเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลลำดับที่ 61 ของโลกในปี 2011

9. ก่อนหน้านี้เนวิลล์มีนามสกุลสองชื่อ คือ ไซด์บอทท่อม กับ พัฟ

10. ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเคยหมั้นกับมักเกิ้ลชื่อ ดูกัล แมกเกรเกอร์

11. เบลลาทริกซ์กับซิเรียส แบล็ก ต่างเสียชีวิตในขณะที่กำลังล้อเลียนคู่ต่อสู้

12. ถ้ามีมักเกิ้ลเดินผ่านมาแถวโรงเรียนฮอกวอตส์ พวกเขาจะเห็นเพียงอาคารเก่าๆ พร้อมป้าย “ห้ามเข้า พื้นที่อันตราย”

13. โรว์ลิ่งชอบตอน “กระจกแห่งแอริเซด” ในแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่มแรกมากที่สุด

14. ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ เด็กๆ ตระกูลวีสลีย์ได้รับการเรียนการสอนจากมอลลี่

15. ทั้งซิเรียสและเฟร็ด ผู้สร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวฮอกวอตส์ ต่างเสียชีวิตในขณะที่กำลังหัวเราะ

16. โรว์ลิ่งคิดชื่อที่ขึ้นต้นด้วยตัว Q ได้ 5 หน้า ก่อนจะลงเอยที่ชื่อ ควิดดิช

17. เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะมีน้องสาวคนหนึ่งแล้ว แต่โรว์ลิ่งหาที่ลงให้ตัวละครตัวนี้ไม่ได้เสียที

18. เฮอร์ไมโอนี่เกือบได้นามสกุลว่า “พักเกิ้ล”

19. โรว์ลิ่งเคยพูดติดตลกว่าถ้าก็อดดริก กริฟฟินดอร์ยังมีชีวิตอยู่ คงจะปลอมตัวเป็นหมึกยักษ์นั่นแหละ

20. อาการแลบลิ้นแปลกๆ ของบาร์ตี้ เคราช์ จูเนียร์ในหนังไม่ได้มีในเวอร์ชั่นนิยาย แต่นักแสดง เดวิด เทนแนนท์ ด้นสดขึ้นมาเองเพื่อให้ตัวละครดูเป็นชายสติไม่ดีมากขึ้น

.

21. ขณะอยู่กอง ไมเคิล แกมบอน (ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์) จะสวมเสื้อผ้าปกติใต้เสื้อคลุมพ่อมดแล้วเอาบุหรี่ยัดไว้ในถุงเท้า

22. โรเบิร์ต น็อกซ์ (มาร์คัส เบลบี้) ถูกแทงเสียชีวิตวันที่ 24 เมษายน 2008 ก่อนถ่ายทำภาคเจ้าชายเลือดผสม

.

23. เบลลาทริกซ์ เป็นภาษาละตินแปลว่า “นักรบหญิง”

.

24. ผู้พิทักษ์ของเฮอร์ไมโอนี่คือตัวนาก ซึ่งเป็นสัตว์ที่โรว์ลิ่งชอบที่สุด และมันยังจัดเป็นสัตว์ตระกูลวีเซิลด้วย (ต้องแต่งเข้าตระกูลวีสลีย์แล้วล่ะ)

25. โรว์ลิ่งบอกว่าซิเรียส แบล็กนั้นยุ่งกับการทำตัวขบถจนไม่ได้แต่งงาน

26. โรงเรียนฮอกวอตส์ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 993

27. มีพ่อมด 3,000 คนบนเกาะอังกฤษ

28. ผู้จัดการของโรว์ลิ่งต้องติดต่อให้สนพ.ในเกาะอังกฤษเริ่มจำหน่ายแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบันหลังโรงเรียนเลิก เพื่อไม่ให้เกิดการหนีโรงเรียนมาซื้อก่อน

29. แฟนหนังสือหลายคนไปถ่ายภาพชานชาลาที่สถานีคิงส์ครอสจนเจ้าหน้าที่จัดทำป้าย ชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 ให้โดยเฉพาะ

.

30. นักแสดงแทนของแดเนียล -คลิฟฟ์ ได้ทำหน้าที่แค่ 6 ภาคแรก เนื่องจากระหว่างการซ้อมก่อนถ่ายทำภาค 7 เขาดันเป็นอัมพาตเสียก่อน

31. พวกแฟนๆ ชอบคิดว่าสเนปคือแวมไพร์ เพราะลักษณะท่าทางของเขามันให้ แต่โรว์ลิ่งก็ช่วยยืนยันให้ว่า “ไม่ใช้จ้ะ”

32. โรเบิร์ต แพททินสันเคยพูดตรงๆ ว่าเขาอยากเล่นเป็นเซดริก ดิกกอรี่มากกว่าเอ็ดเวิร์ด คัลเลน

.

33. มักมีคนถามโรว์ลิ่งว่าชื่อเฮอร์ไมโอนี่อ่านยังไง เธอเลยเขียนให้เฮอร์ไมโอนี่สอนวิกเตอร์ ครัมเรื่องการออกเสียงชื่อเธอ ทุกคนจะได้รู้เสียที

34. ป้าเพ็ททูเนียอิจฉาลิลลี่ แม่ของแฮร์รี่ มาก ที่มีความสามารถด้านเวทมนตร์จนถึงกับเขียนจดหมายไปหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ขอเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ด้วย

35. ในการสัมภาษณ์ เอ็มมา วัตสันบอกว่าคนในกองมักเรียกเธอ “วัตสันเทคเดียว” ส่วนแดเนียล -คลิฟฟ์ จะถูกเรียกว่า “อีกทีนะแดน” และรูเพิร์ต กรินท์ได้ฉายาว่า “เล่นใหม่ รูเพิร์ต”

36. โรว์ลิ่งให้แฮร์รี่กับรอนช่วยเฮอร์ไมโอนี่จากโทรลล์ในเล่มแรก เนื่องจากเธอรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างที่ “ยิ่งใหญ่” มากดึงคนสามคนนี้เข้าหากัน

37. หลังจากที่ฮอร์ครักซ์ในตัวแฮร์รี่ถูกทำลาย เขาก็พูดภาษาพาร์เซลไม่ได้อีกต่อไป

38. หลังจบสงครามที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่พยายามนำภาพสเนปมาติดที่ห้องอาจารย์ใหญ่ ถึงแม้ว่าสเนปจะเป็นฝ่ายทิ้งตำแหน่งเพื่อไปอยู่ข้างโวลเดอมอร์ก็ตาม

.

39. หมายเลขตู้นิรภัยของซิเรียส (711) เป็นหมายเลขหน้าที่มีฉากซิเรียสตายในฉบับอังกฤษของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟินิกส์ (บังเอิญหรือไร?)

40. รอนกลัวแมงมุมมากเพราะเฟร็ดเสกให้ตุ๊กตาหมีของเขาเป็นแมงมุมตอนรอนอายุ 3 ขวบ หลังจากที่รอนทำไม้กวาดของเล่นของเฟร็ดหัก

41. เฮเลน่า คาร์เตอร์ (เบลลาทริกซ์) สารภาพว่าเคยเผลอฟาดไม้กายสิทธิ์ไปโดนหูแมทธิว ลูอิส (เนวิลล์) ทำให้เขาเลือดออก

42. โรว์ลิ่งให้มอลลี่เป็นคนฆ่าเบลลาทริกซ์ เพื่อสื่อว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นมีพลังกว่าความรักที่เน้นการครอบครองของเบลลาทริกซ์

43. คำพูดแรกและคำพูดสุดท้ายที่เราได้ยินจากเอล์ฟชื่อด๊อบบี้คือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์”

 

44. สตีเฟน คิงยกให้ศาสตราจารย์อัมบริดจ์ เป็นตัวร้ายจอมเสแสร้งที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ฮันนิบาล เลกเตอร์

.

45. ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคสุดท้าย ฉากที่แฮร์รี่แกล้งตายแล้วในอ้อมแขนแฮกริดแล้วลุกขึ้นมา จอร์จหันไปข้างหลังเพื่อบอกเฟร็ดว่าแฮร์รี่ยังไม่ตายโดยลืมไปว่าเฟร็ดตายแล้ว

46. ในภาคสุดท้ายอีกเช่นกัน โช แชงควรจะเรียนจบไปแล้ว (เธออายุมากกว่าแฮร์รี่ 1 ปี) แต่ในหนังเราจะได้เห็นเธอสวมชุดคลุมมายืนรวมกลุ่มกับพวกเรเวนคลอเสมือนว่ายังมาเรียนอยู่

47. จอร์จแต่งงานกับแองเจลิน่า จอห์นสัน มีลูกสองคนคือเฟร็ดและโรซานน์

48. แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นพ่อมดเพียงคนเดียวที่โดนคำสาปโทษผิดสถานเดียวทั้ง 3 คำสาปแล้วยังมีชีวิตรอดมาได้

49. โรว์ลิ่งบอกว่าลิลลี่คงเริ่มชอบสเนปถ้าเขาไม่ไปสายมืดเสียก่อน

50. เกือบตลอดการถ่ายทำหนังชุดนี้ แดเนียลมักจะสวมแว่นกรอบกลมที่ไม่มีเลนส์

51. วินเซนต์ แครบบ์ เปลี่ยนนักแสดงกะทันหัน เนื่องจากนักแสดงคนเดิมโดนจับได้ข้อหาปลูกและขายกัญชา

 

52. รูเพิร์ต กรินท์ยอมรับว่าจูบระหว่างเขากับเอ็มมา วัตสันเหมือนจูบระหว่างพี่น้องมากกว่า

53. คุณนายนอร์ริสที่เหมือนจะฉลาดและมีเซนส์ทางเวทมนตร์สูงจริงๆ แล้วเป็นแค่แมวธรรมดาที่ขี้หงุดหงิดเท่านั้นเอง

54. เบลลาทริกซ์จริงๆ แล้วตกหลุมรักลอร์ดโวลเดอมอร์

55. ทั้งๆ ที่ผีพีฟส์โผล่มาในเวอร์ชั่นหนังสือทุกเล่ม แต่กลับโดนตัดออกไปจากหนังอย่างสิ้นเชิง

56. ตอนที่เฟร็ดกับจอร์จยิงลูกบอลหิมะใส่ศาสตราจารย์ควีเรลล์ในภาคแรก พวกเขาไม่รู้ว่าได้ปาหิมะอัดหน้าเจ้าแห่งความมืดไปเต็มๆ

.

57. ทีมงานต้องผลิตไม้กายสิทธิ์ให้แดเนียล แรดคลิฟฟ์กว่า 70 แท่ง เพราะเขาเอามันไปใช้เล่นเป็นไม้ตีกลองจนหัก

58. การตายของเฮ็ดวิกถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการสูญเสียความไร้เดียงสา และก้าวเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวของแฮร์รี่

 

59. ทอม เฟลตัน แจกพิซซ่าฟรีให้กับแฟนๆ ที่มารอชมภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาค 7 ที่นิวยอร์ก

60. ปากกาขนนกมหัศจรรย์จะจับช่วงเวลาการเกิดของพ่อมดแม่มดแต่ละคนเอาไว้ เมื่ออายุครบ 11 ปี ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็จะใช้ขนนกนี้เขียนจดหมายเชิญให้มาเรียนที่ฮอกวอตส์

61. มีบันไดทั้งสิ้น 142 แห่งในปราสาทฮอกวอตส์

.

62. แมทธิว ลูอิส (เนวิลล์) เคยบ่นเรื่องที่เขาต้องใส่ชุดให้ดูอ้วนขึ้นในภาค 3,4,5,6 และใส่ฟันปลอมใน 3,4 เพื่อให้ตัวเองดูน่าเกลียดต่อหน้าเด็กผู้หญิงในกองถ่าย

.

63. หลังจากคิงส์ลีย์ ชักเกิลโบลท์ได้เป็นนายกกระทรวงเวทมนตร์คนใหม่ เขาบอกกับคนที่ร่วมในสงครามฮอกวอตส์ว่า พวกเขาสมัครเป็นมือปราบมารได้โดยไม่ต้องใช้คะแนนส.พ.บ.ส.เลย

64. บอนนี่ ไรท์ (จินนี่ วีสลีย์) หมั้นกับนักแสดงที่แสดงเป็นกรินเดลวัลด์ตอนหนุ่ม

65. แฮร์รี่ในหนังมีตาสีฟ้าเนื่องจากแดเนียล -คลิฟฟ์แพ้คอนแทคเลนส์

.

66. รูเพิร์ต กรินท์เคยชนะการประกวดคนหน้าเหมือนรอน วีสลีย์ ก่อนจะมีการประกาศออดิชั่นเสียอีก

67. เอ็มมา วัตสันได้ใส่ฟันปลอมเพื่อให้ฟันหน้าเธอดูเหยินในฉากสุดท้ายของภาคแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ใส่มันอีกเลย (ภาคแรกถ่ายฉากจบก่อน)

68. โวลเดอมอร์ไม่อาจรักใครได้เพราะเขาคือผลผลิตที่เกิดจากการใช้ยาเสน่ห์

 

69. กระเป๋าเสื้อคลุมของทอม เฟลตันถูกเย็บปิดตายเพราะเขาชอบแอบเอาขนมเข้ามากินในกองถ่าย

70. แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟินิกซ์เป็นภาคที่เวอร์ชั่นหนังสือยาวที่สุดแต่หนังกลับสั้นที่สุด

71. สเนปเกลียดเนวิลล์ เพราะเนวิลล์อาจจะเป็นคนที่ถูกเลือกอีกคน ถ้าโวลเดอมอร์ตัดสินใจฆ่าเนวิลล์ ลิลลี่ก็ไม่จำเป็นต้องตาย

.

72. ต่างหูรูปหัวไชเท้าที่ลูน่า เลิฟกู้ดใส่เข้าฉากนั้น เป็นผลงานของอีวานนา ลินช์ นักแสดงนั่นเอง

.

73. ดัมเบิลดอร์เห็นสิ่งเดียวกับที่แฮร์รี่เห็นในกระจกแอริเซด ครอบครัวที่พร้อมหน้ากัน

74. ลาเวนเดอร์ บราวน์ในสี่ภาคแรกแสดงโดยนักแสดงผิวดำที่ไม่มีชื่อในเครดิต จนกระทั่งภาคห้าที่เธอกลายเป็นคนผิวขาว

75. คู่แฝดเฟร็ดกับจอร์จ เลี้ยงวันเกิดตัวเองในวันเอพริลฟูล

76. รูเพิร์ต กรินท์ สารภาพว่าเคยวาดรูปอลัน ริกแมน (สเนป) ก่อนจะพบว่าอลัน ริกแมนยืนอยู่ข้างหลังเขานี่เอง

77. เมื่อถูกถามว่า “แฮร์รี่มอบแผนที่ตัวกวนให้ใคร” โรว์ลิ่งตอบว่า “ฉันคิดว่าเขาไม่ได้ให้ใครเลย แต่เจมส์น้อยคงขโมยมันไปจากแฮร์รี่มากกว่า”

78. เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนเดียวที่กลับมาเรียนต่อจนจบปี 7 ในขณะที่แฮร์รี่กับรอน…

.

79. แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ได้รับเกียรติให้อยู่ในคอลเลกชั่นการ์ดกบช็อกโกแลต รอนเห็นตรงกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ว่านี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา

80. คำสาป “อะวาดา เคดาฟรา” มาจากวลีในภาษาอาหรับที่ว่า “อบัดดา เคดาบรา” แปลว่า “จงหายไปเช่นคำนี้”

81. ในเครดิตท้ายหนังภาค 4 (ถ้วยอัคนี) เขียนว่า “ไม่มีการทำร้ายมังกรใดๆ ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้”

.

82. ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ภาคแรก แดเนียล -คลิฟฟ์แกล้งร็อบบี โคลเทรน (แฮกริด) ด้วยการเปลี่ยนภาษาในมือถือให้เป็นภาษาตุรกี

83. นามปากกา เจ.เค. โรว์ลิ่งมาจากไอเดียของสำนักพิมพ์ที่อยากให้เธอใช้ชื่อย่อให้ดูเหมือนเป็นผู้ชาย และจะได้ดึงดูดคนอ่านผู้ชายมากกว่านี้ เธอเลยเอา K มาจากชื่อคุณย่าของเธอ แคทลิน

.

84. โรว์ลิ่งปฏิเสธทฤษฎีที่ว่า “แฮร์รี่คือลูกของโวลเดอมอร์” โดยบอกว่า “พวกคุณดูสตาร์วอร์สมากไปแล้ว”

85. ในหนังสือแฮกริดสูงกว่ามนุษย์ปกติสองเท่า แต่ในหนังแฮกริดสูงแค่ 8 ฟุต 6 นิ้ว

 

86. โรว์ลิ่งเคยคิดจะให้ดัดลีย์มาอยู่ในฉากจบและมีลูกเป็นพ่อมดด้วย แต่เธอคิดว่ายีนพ่อมดไม่น่าจะรอดได้ถ้าไปเจอยีนของลุงเวอร์นอน

.

87. ระหว่างการถ่ายทำฉากห้องอาหารยามเช้าของฮอกวอตส์ แดเนียล -คลิฟฟ์ เริ่มเบื่ออาหารในฉากที่มีแต่เบคอน เลยแอบส่งให้นักแสดงประกอบอายุสิบขวบตอนที่กล้องไม่ได้ถ่ายเขาอยู่

88. รูเพิร์ต กรินท์มีรถขายไอติมของตัวเอง แต่ขายไม่ได้เพราะไม่ได้ขอใบอนุญาต เขาบอกว่า “ไม่รู้สึกอยากยุ่งกับเรื่องเอกสารเท่าไร” (สมกับเป็นรอน)

89. โรว์ลิ่งเคยถูกเสนอให้รับบท ลิลลี่ พอตเตอร์ แต่เธอคิดว่าเธอไม่เหมาะกับการแสดงเท่าไร

90. มีวิธีการทำฟาวล์ในการแข่งควิดดิชทั้งหมด 700 วิธี ทั้งหมดถูกใช้ในการแข่งควิดดิชโลกปี 1473

.

91. ในหนังภาค 3 (นักโทษแห่งอัซคาบัน) จันทร์เจ้า (Moony) สะกดเป็น Mooney เพื่อล้อเลียนทีมงานคนหนึ่งที่มีชื่อนี้พอดี

92. ปาราวตีกับปัถมา พาติลในหนังสืออยู่คนละบ้าน แต่ในหนังอยู่บ้านกริฟฟินดอร์เหมือนกัน

93. โรว์ลิ่งบอกว่าถ้าเธออยู่ในโลกพ่อมด เธอคงทำอาชีพเขียนหนังสือสอนเรื่องการใช้เวทมนตร์คาถา

94. เจมส์ เฟลพ์ (เฟร็ด วีสลีย์) บอกว่าการตายของเฟร็ดเหมือนเป็นการตายของเพื่อนเก่าคนหนึ่ง

.

95. มีเด็กกว่า 16,000 คนที่แคสท์บทแฮร์รี่ พอตเตอร์

96. ทีมงานบอกกับนักแสดงว่าขนมร้านฮันนี่ดุ๊กส์เคลือบแล็กเกอร์เอาไว้ จะได้ไม่มีใครแอบหยิบกินระหว่างการถ่ายทำ

97. นาตาลี แมกโดนัลด์ ตัวละครจากแฮร์รี่ พอตเตอร์กับอ้วยถัคนี มาจากเด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมียที่โรว์ลิ่งเคยคุยด้วย

98. นากินีไม่ใช่งูตัวเดียวที่แฮร์รี่ปล่อยจากสวนสัตว์ในภาคแรก

99. หนังสือ 4 ภาคสุดท้ายในชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้รับการบันทึกว่าขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

100. เอียน แมคคัลเลนปฏิเสธบทศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ โดยบอกว่า “เป็นตำนานเดียวก็ลำบากยากจะทน ให้สองคงไม่ไหว”

ที่มา : dek-d