อีกเรื่องของตัณหาของมนุษย์ ความไม่พอดี พอใจ ในร่างกายที่ตนเองมีอยู่ มีไม่มีก็จะเสริมให้มันมี ที่มีอยู่ก็จะดัดแปลงให้มันแปลกแยก แตกต่าง เราคงได้เห็นการสัก การเจาะตามร่างกายต่าง ๆ นานากันมามากมาย แต่เรื่องที่จะนำมาแบ่งปันนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะไม่เคยเห็น การตกแต่งร่างกายที่มันพิลึก พิสดารขนาดนี้ บางอันแค่เห็นภาพก็รู้สึกเสียวซ่าน เจ็บปวด แล้ว เชิญรับชมกันได้ ณ บัดนี้
.
1.การทำหูแหลม
.
นายแพทย์ Lajos Nagy หมอศัลยกรรมพลาสติกจากนิวยอร์ค ได้เริ่มการศัลยกรรมรูปแบบใหม่ ที่ให้หูของมนุษย์แหลมขึ้น เหมือนกันสิ่งมีชีวิตจากเทพนิยาย จากคำกล่าวอ้างของคุณหมอ “นอกจากทำให้หน้าตาดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้การรับฟังดนตรีสุนทรีขึ้นด้วย”
หมายเหตุ – มีการแฉภายหลังว่านายแพทย์ Nagy เป็นหมอเถื่อน และการทำศัลยกรรมไม่มีจริง แต่เป็นไปได้ทางทฤษฏี
.
2.การทำลิ้นสองแฉก
.
หนึ่งในการปรับเปลี่ยนร่างกายแบบใหม่ล่าสุด และน่าสยองที่สุดด้วย หลังจากผ่าลิ้นเป็นสองแฉกแล้วลิ้นยังขยับเขยื้อนได้ด้วยตัวเองด้วย
.
3.การตรึงร่างกาย
.
คือการเจาะขอเกี่ยวเข้าไปตามร่างกายแล้วยกขึ้น บางส่วนหรือทั้งตัว (น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่พวกซาดิสม์)
.
4.การตีตรา
.
สักแบบธรรมดามันยังไม่สะใจสำหรับคนบางกลุ่ม การตีตรานี้น่าจะเป็นอะไรที่เจ็บปวดที่สุด กรรมวิธีจะเริ่มจากการเอาเข็มร้อนจี้ไปตามร่างกายแล้วจี้ทิ้งไว้จนทำให้ผิวไหม้ไปถึงระดับเซลล์ประสาท ในทางการแพทย์เรียกว่าการไหม้ระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ซึ่งจะทำให้ผิวหนังถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก จึงจะได้ลายสักที่ต้องการ
.
5.การเจาะรัดรึงผิวหนัง ให้เหมือนชุดชั้นในสตรีโบราณ
.
หนึ่งในเทรนด์สยองล่าสุด คือการเจาะห่วงเลาะไปตามกระดูกสันหลังแล้วร้อยริบบิ้นไปมา เพื่อเป็นการโชว์สัดส่วนของหญิงสาว
.
6.การฝังวัตถุใต้ผิวหนังสามมิติ
.
ได้รับความนิยมจาก Steve Haworth เริ่มจากการฝังซิลิโคนเข้าไปให้ได้รูปทรงที่่ ต้องการแล้วเอาออก โดยเริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน เหมือนผิวหนังนูนออกมาได้ทรงที่ต้องการแล้วก็ค่อย ๆ ขยายขนาดตามที่ต้องการ หากใช้ขนาดใหญ่เกินไปผิวหนังจะรับไม่ได้
.
7.การบูชายัญ
.
กรรมวิธีเริ่มจากการตัดผิวหนังออกเป็นรูปทรงที่ต้องการ แล้วทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แม้จะดูเจ็บปวดแต่คนที่เคยทำกล่าวว่าเป็นแค่ความเจ็บปวดเท่ากับการสักแค่นั้นเอง ส่วนมากคนที่ทำจะเป็นการทำเพื่อบูชายัญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วเสพความสุขจากการรักษาแผล
.
8.การสักลูกตา
.
การสักลูกตา ไม่ใช่แค่เรื่องเหลือเชื่อ แต่มันมีมานานกว่า 2000 ปีแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่วิวัฒนาการของการรักษาตาและคอนเทคเลนส์ ทำให้การสักลูกตาเลือนหายไป
.
