10 หมู่บ้าน ที่มีความ “แปลก” ที่สุดในโลก

บนโลกนี้มีสถานที่แปลกๆ มากมายหลายแห่ง ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะเคยเห็นความแปลกของมันมากันบ้างแล้ว และหลายๆ สถานที่ที่แปลกนั้นก็มีทั้งธรรมชาติเป็นผู้สร้าง รวมถึงมนุษย์เป็นผู้สร้างปะปนกันไป ว่าแต่เพื่อนๆ เคยเจอหมู่บ้านแปลกกันแล้วหรือยัง?

ดังนั้นเราจึงมี 10 หมู่บ้าน ที่มีความ ‘แปลก’ ที่สุดในโลก มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ลองไปดูกันว่าท่ามกลางยุคสมัยที่เปี่ยมไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย หมู่บ้านเหล่านี้จะแตกต่างจากหมู่บ้านทั่วๆ ไปอย่างไรบ้าง

.

1. Ganxi Dong หมู่บ้านกังฟู

.

Ganxi Dong เป็นหมู่บ้านเล็กที่อยู่กลางหุบเขา Tianzhu ในประเทศจีน ชาวบ้านที่นี่ทุกคนต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ ของจีนโบราณ และมีความรอบรู้ในวิชากังฟู พวกเขาจะใช้ศิลปะการต่อสู้ที่ตัวเองรู้เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่าที่มาทำร้าย และเพื่อรับมือกับคนที่จะเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้าน สมาชิกแต่ละคนในทุกครอบครัวนั้นจะได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ของชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ มีชาวบ้านเล่าว่า ‘สมัยก่อนหมู่บ้านนี้ถูกปล้นบ่อยครั้ง ดังนั้นทุกคนในหมู่บ้านจึงต้องเรียนศิลปะการต่อสู้เอาไว้เพื่อป้องกันตัวเอง และจากนั้นก็สอนกันมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น’

.

2. หมู่บ้านที่ฝนตกชุกที่สุด

.

หมู่บ้านนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมด 22,429 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในรัฐ Meghalaya ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นรัฐที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ที่สมบูรณ์ และนับว่าเป็นสถานที่ที่มีฝนตกชุกที่สุดในโลก อีกทั้งยังชื้นแฉะที่สุดในโลกด้วย โดยมีฝนตกตลอดเวลา โดยกินพื้นที่ถึง 467 ตารางนิ้ว และเนื่องจากรัฐ Meghalaya ตั้งอยู่ในสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ทำให้มีสัตว์ป่านานาพันธุ์อาศัยอยู่ด้วย ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักดูนกจากทั่วโลกนิยมไปมากๆ อีกทั้งชาวบ้านที่หมู่บ้านนี้ยังใช้ชีวิตแบบวิถีดั้งเดิม ทั้งการสร้างบ้านด้วยต้นไม้ สร้างสะพานจากไม้ไผ่ และสะพานต้นไม้มีชีวิต ซึ่งเป็นสะพานที่มีชื่อเสียง และถือว่าเป็นสะพานที่แปลกแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้

.

3. หมู่บ้านที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีไตข้างเดียว

.

หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในเขต Hokse ประเทศเนปาล เป็นที่รู้จักในนาม ‘หมู่บ้านขายไต’ เพราะชาวบ้านเกือบทุกคนจะขายไตคนละ 1 ข้าง เพื่อนำเงินมาซื้อที่พักอาศัย เนื่องจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่เนปาลช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ประชากรเสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนประชาการที่รอด ต่างก็ต้องพบกับความยากลำบากแสนสาหัส หมู่บ้านแห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายมากเช่นกัน ชาวบ้านจึงต้องหาทางลัดในการหาเงินด้วยการขายไตคนละ 1 ข้าง ให้กับนายหน้าค้าอวัยวะ เพื่อแลกกับการนำเงินมาสร้างบ้านใหม่ แต่ว่าการกระทำนี้ก็ส่งผลให้เนปาลนั้นเปรียบเสมือนธนาคารไตไปแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้คาดการณ์ว่า จำนวนประชากรที่ยินดีขายไตนั้นจะมีการเพิ่มขึ้นทวีคูณในปีหน้า ซึ่งการค้าอวัยวะภายในอย่างผิดกฎหมายนั้นทำให้เกิดการผ่าตัดขายไตในตลาดมืดกว่าหมื่นแห่ง และมีไตมากกว่า 7 พันชิ้นถูกจำหน่ายในทุกๆ ปี ถึงแม้จะมีจำนวนไตมากขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่าก็ยังคงไม่พอต่อความต้องการของตลาดมืด จึงทำให้เกิดเหตุลักพาตัวเหยื่อ และบังคับให้ผ่าตัดขายไต หรือแม้กระทั่งฆาตกรรม และเอาไตทั้ง 2 ข้างจากผู้เคราะห์ร้ายไปขาย

.

4. Viganella หมู่บ้านที่มีดวงอาทิตย์เป็นของตัวเอง

.

Viganella หมู่บ้านเล็กๆ ในอิตาลี ที่ล้อมรอบด้วยหุบเขา ทำให้ช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์หมู่บ้านแห่งนี้จะไม่ได้สัมผัสถึงแสงของด้วยอาทิตย์เลยแม้แต่วันเดียวเป็นระยะเวลาประมาณ 83 วันต่อปี ทำให้ชาวบ้านต่างโหยหาแสงของดวงอาทิตย์เป็นอย่างมาก จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 หมู่บ้านแห่งนี้จึงได้ติดตั้งกระจกเงาขนาดยักษ์ที่สร้างจากแผ่นโลหะขัดเงาที่สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ดีจำนวน 14 แผ่น บนภูเขา และเมื่อนำมารวมกันจะได้กระจกเงาขนาด 8 x 5 เมตร ซึ่งกระจกเงานี้ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถขยับเปลี่ยนมุมสะท้อนแสงอาทิตย์ให้ส่องไปยังหมู่บ้านได้ตลอดทั้งวัน โดยใช้งบประมาณในการสร้าง 1 แสนยูโร

.

5. หมู่บ้านที่บ้านแต่ละหลังไม่มีประตู

.

หมู่บ้าน Shani Shingnapur ในประเทศอินเดีย มีความแปลกตรงที่บ้านเรือนแต่ละหลังนั้นไม่มีประตู ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อ 300 ปีก่อน มีหินก้อนหนึ่งขึ้นมาเกยชายฝั่งหลังจากเกิดน้ำท่วม พอชาวบ้านแห่กันไปดู และเอามือสัมผัสหิน เลือดก็ไหลออกมา ในคืนนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ฝันเห็นพระเสาร์มาบอกว่า หินก้อนนั้นเป็นร่างอวตารของพระองค์ และให้นำหินก้อนนั้นมาไว้ในหมู่บ้าน เพื่อแลกกับการปกปักรักษา แต่มีข้อแม่ว่า ต้องไม่มีอะไรมาปิดกั้นอิทธิฤทธิ์ของพระเสาร์ ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทุกคนจึงทำตาม จนกลายเป็นขนบธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้บ้านทุกหลังไม่มีประตู แถมร้านค้าและธนาคารก็ไม่มีการล็อกประตูเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชม

.

6. Dementia หมู่บ้านที่ชาวบ้านสมองเสื่อม

.

หมู่บ้าน Dementia ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมือง Amsterdam เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นสำหรับผู้ป่วยสมองเสื่อมโดยเฉพาะ รวมถึงผู้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความทรงจำ ณ ตอนนี้มีผู้อาศัยอยู่ 150 คน โดยประมาณ หมู่บ้านนี้ถูกออกแบบเหมือนหมู่บ้านปกติทั่วไป มีสวนสาธารณะ มีโรงละคร รวมถึงที่ทำการไปรษณีย์ ชาวเมืองมีอิสระในการซื้อสินค้าต่างๆ และอาหารตามต้องการ แต่ก็มีคนที่คอยดูแลพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หลงทางหรือทำร้ายตัวเอง ซึ่งทุกๆ จุดในหมู่บ้านจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ เพื่อสอดส่องดูและความปลอดภัยตลอดเวลา ดังนั้นที่นี่จึงมีระบบการควบคุมความปลอดภัยที่ค่อนข้างซับซ้อนสักหน่อย แต่ว่าญาติก็สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ทุกเมื่อ

.

7. หมู่บ้าน Smurfs

.

หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ที่เมือง Júzcar ประเทศสเปน ซึ่งเมื่อฤดูใบไม้ผลิของปี 2011 เมือง Júzcar ได้เปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นสีฟ้าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ The Smurfs 3D แต่กว่าจะทำให้บ้านเรือนรวมถึงอาคารต่างๆ ทั้งเมืองเป็นสีฟ้าได้นั้นต้องใช้สีไปกว่า 4,000 ลิตร และช่างทาสีประมาณ 20 คน หลังจากที่เปิดตัวภาพยนตร์ไปแล้วทางบริษัท Sony Pictures Animation ที่เป็นค่ายผู้อำนวยการสร้าง ก็ได้กลับมาหมู่บ้านนี้อีกครั้งเพื่อทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นสีขาวเหมือนเดิม แต่กลับได้รับการปฎิเสธจากชาวเมือง เนื่องจากพอทั้งหมู่บ้านกลายเป็นสีฟ้าแล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนถึง 80,000 คนต่อปี จากเดิมที่มีเพียง 300 คนต่อปี อีกทั้งยังมีการแข่งวาดภาพ Smurfs และจัดงานแต่งงานในธีม Smurfs เพื่อที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นกว่าเดิม

.

8. Kalachi หมู่บ้านแห่งการหลับใหล

.

หมู่บ้าน Kalachi อยู่ทางตอนเหนือของประเทศคาซัคสถาน มีประชากรในหมู่บ้านที่หลับติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 วัน โดยเชื่อว่าสาเหตุนั้นมาจากผลของกัมมันตภาพรังสีจากเหมืองแร่ยูเรเนียนที่อยู่ไม่ไกลหมู่บ้าน ซึ่งปรากฎการณ์ประหลาดดังกล่าวทำให้ชาวบ้านกว่า 60 คน ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการเวียนหัว เหนื่อยล้า ยืนไม่ได้ จนต้องล้มตัวลงนอน และหลับไปเป็นเวลา 2-3 วัน พอตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้ มึนๆ งงๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก่อน ทางนักวิทยาศาสตร์จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีสารเคมีใดๆ ปนเปื้อนอยู่ในพื้นดินและบ่อน้ำ จึงตั้งข้อสงสัยว่า น่าจะเป็นการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากเหมืองแร่ดังกล่าว

.

9. หมู่บ้านคนแคระ

.

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลเสฉวน ซึ่งรู้จักกันในนาม Village of Dwarfs หรือ หมู่บ้านคนแคระ เป็นหมู่บ้านที่ทางการจีนสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหล่าคนแคระมาอาศัยอยู่ร่วมกัน ชาวบ้านที่นี่มีความสูงอยู่ที่ 79-130 เซนติเมตร และมีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 100 คน โดยได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ จากทางการ อีกทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากด้วย

.

10. Giethoorn หมู่บ้านไร้ถนน

.

Giethoorn เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีทั้งความสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางของผู้คนในหมู่บ้านนี้จะต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะ เนื่องจากหมู่บ้านนี้ไม่มีถนน มีเพียงแค่คลองเล็กๆ ที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร ชาวเมืองจึงมีเรือกันทุกบ้าน ผู้คนที่อาศัยที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไร่ที่มีฐานะค่อนข้างดี และบ้านแต่ละหลังจะออกแบบเป็นกระท่อมตามแบบตะวันตก ซึ่งสวยงาม และเข้ากับสถานที่เป็นอย่างมาก หมู่บ้านนี้เคยถูกนำไปใช้เป็นฉากในการถ่ายภาพยนตร์เมื่อปี 1958 หลังก็กลายเป็นที่รู้จักจนมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาเที่ยวชมความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้

.

ความแปลกของหมู่บ้านเหล่านี้บางแห่งก็ดูมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากๆ เลยนะ แต่บางแห่งก็ดูน่ากลัวไปหน่อยเนาะ อย่างเช่น หมู่บ้านที่ชาวบ้านมีไตข้างเดียว และหมู่บ้านแห่งการหลับไหล เป็นต้น

.

ที่มา : oddee ,  rabbit