แม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง back to the future (เจาะเวลาหาอดีต) จะออกฉายไปเมื่อ 30 ที่แล้ว แต่เมื่อย้อนกลับไปเปิดดูใหม่อีกรอบก็ยังถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังดูทันสมัยอยู่เสมอ เนื้อเรื่องว่าด้วยการย้อนกลับไปยังอดีตและอนาคตเพื่อกลับไปแก้ไขปัญหาของ “มาร์ตี้ แม็คฟลาย” และ “ด็อกเตอร์เอ็มเมต บราวน์” โดยมีทั้งหมดจำนวน 3 ภาค
แต่วันนี้เราจะพูดกันถึงภาค 2 ที่มาร์ตี้และด็อกฯ พากันนั่งไทม์แมชชีนไปยังโลกอนาคตคือปี 2015 (ผ่านมาจะ 2 ปีละ) เรามาดูกันว่าเทคโนโลยีใดที่หนังเรื่องนี้ได้จินตนาการไว้เมื่อ 30 ปีก่อน วันนี้มันเป็นจริงขึ้นมาแล้วบ้าง เลื่อนลงไปชมพร้อมๆกันเลย
.
1. เทคโนโลยีภาพ 3 มิติ
.
ในฉากจะเป็นตอนที่มาร์ตี้เดินสำรวจเมืองฮิลวัลเลย์ในโลกอนาคต ขณะที่เดินไปบริเวณหน้าโรงหนังซึ่งกำลังฉายหนังเรื่อง JAWS ภาค 19 จู่ๆก็ได้เห็นปลาฉลามยักษ์พุ่งออกมาจากโรงหนัง สุดท้ายมาร์ตี้จึงได้รู้ว่าที่เห็นน่ะมันเป็นแค่ภาพจากเครื่องฉาย 3 มิติเท่านั้น ตัดกลับมาที่
ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ฉายภาพ 3 มิติแบบเห็นเป็นตัวๆ กลางแจ้งของเราแม้ยังไม่มีแต่ก็ยังเคลมได้ว่าเรามีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงจากโรงภาพยนต์ที่ฉายในระบบ IMAX ที่พัฒนาจากหนัง 3 มิติแบบแว่น 2 สี (เลนส์น้ำเงินและแดง) ที่ออกมาในปี 1989
.
2. แท็บเลต
.
เป็นฉากที่มีคนมาเรียกร้องให้ลงชื่อและบริจาคการร่วมคัดค้านการทำลายหอนาฬิกาเก่าของเมืองฮิลวัลเลย์และลุงก็ยื่นอุปกรณ์ ที่ดูคล้ายกับสมุดแต่ไม่ใช่สมุดให้กับมาร์ตี้ร่วมเซ็นบริจาคคัดค้าน
ถ้าย้อนกลับไปตอนที่เราในยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือแบบจอทัชสกรีนแบบทุกวันนี้แล้วดูหนังเรื่องนี้เราก็ยังไม่รู้หรอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่พอเราคุ้นเคยกับเทคโนโลยีทัชสกรีนเราก็เลยร้อง อ๋อ…มันคือแท็บเล็ตนี่เอง
.
3. รองเท้าสุดไฮเทคจาก “ไนกี้”
.
เป็นฉากที่ไทม์แมชชีนจอดและด็อกฯ เดินมายื่นเสื้อผ้าให้มาร์ตี้แต่งเพื่อให้ดูกลมกลืนสามารถไปทำภารกิจที่ตั้งใจจะมาทำกันให้สำเร็จ ไอเท็มที่สะดุดตาและเป็นที่จดจำที่สุดของหนังภาคนี้เลยก็คือ เจ้ารองเท้าไนกี้สีเทาที่มีไฟอยู่เท้า แต่นั้นยังทำให้ร้องอู้วหูววไม่พอต้องเป็นระบบรัดเชือกให้กระชับกับเท้าเพียงแค่กดปุ่มนี่แหละ ที่ทำให้เจ้ารองเท้าคู่นี้มีแต่คนอยากได้
จนในปี 2011 ไนกี้ได้ผลิตออกมาทั้งหมด 1,500 คู่โดยจับฉลากให้ผู้โชคดีได้ซื้อไปและปั่นราคากันจนสูงถึงคู่ละ 350,000 บาทกันเลยทีเดียว แฟนหนังคนไหนที่อยากได้ต้องกระเป๋าหนักและดวงดีกันหน่อยล่ะ
.
4. ระบบประชุมทางไกลแบบวิดีโอ
.
เป็นฉากที่มาร์ตี้ (ตอนปี 2015) กำลังคุยกับเจ้านายในเรื่องงาน โดยใช้การคุยผ่านโทรทัศน์สามารถเห็นหน้าและโต้ตอบกันได้แม้จะอยู่กันคนละที่ก็ตาม
และในปัจจุบันมันเป็นจริงขึ้นมาแล้วโดยผ่านโปรแกรมเช่น สไกป์ และโปรแกรมที่มีลักษณะคล้ายๆ กันทั้งหลายแหล่
.
5. การสั่งงานทีวีด้วยเสียง
.
เป็นฉากที่ลูกชายของมาร์ตี้กลับมาที่บ้านและเปิดทีวีดูโดยการพูดว่าจะเปิดช่องไหนบ้าง ช่องที่เลือกจากการพูดก็จะเปิดขึ้นมา แถมเจ้าทีวีตัวนี้ก็ยังสามารถที่จะใช้ในการสนทนาแบบเห็นหน้าได้อีก
ซึ่งทุกคนก็คงรู้แล้วว่าปัจจุบันในสมาร์ททีวีที่ฟังก์ชั่นเยอะๆ ก็สามารถที่จะใช้ทั้งต่ออินเตอร์เนต และใช้เสียงในการสั่งงานได้แล้ว บางรุ่นทำท่าทางได้อีกต่างหาก
.
และนี่ก็เป็นเทคโนโลยีทั้ง 5 อย่างจากหนังเมื่อ 30 ปีที่แล้วที่ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะเป็นจริงได้ในปัจจุบัน ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรถลอยได้โดยไม่ต้องใช้ถนนหรือไทม์แมชชีนก็ได้ใครจะไปรู้
.
ที่มา : spokedark
