หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิเยอรมัน และพันธมิตรเหล่าทหารทั้งสองฝ่ายล้วนสูญเสียรวมกันเป็นจำนวนกว่า 40 ล้านคน โดยเหล่าทหารไปรบด้วยความคิดที่ว่า “สงครามครั้งนี้จะเป็นการสิ้นสุดสงครามทุกสงคราม”
แต่พวกเค้าคิดผิดถนัดไม่กี่สิบปีหลังจากนั้น สงครามก็ประทุขึ้นมาอีกครั้ง จากแค่ภูมิภาคยุโรปคราวนี้กลายมาเป็นทุกทวีปในโลกต่างต้องมีส่วนในการสูญเสียในสงครามครั้งนี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับเรื่องราวก่อนที่สงครามครั้งที่ 2 ก่อนที่การสูญเสียครั้งที่ใหญ่ที่สุดจะบังเกิดขึ้น จนมีผู้เสียชีวิตทั้งแนวหน้าและแนวหลังกว่า 72 ล้านคน
.
28 June 1919- Treaty of Versailles
.
สนธิสัญญาแวร์ซายนับว่าเป็นเหมือนการฉีกหน้าประเทศเยอรมนีเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ประเทศต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ต้องปลดอาวุธ เสียดินแดน รวมถึงการชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมหาศาล เชื่อกันว่านี่เป็นเหตุผลหลักที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้น และแม้ว่าเยอรมนีจะเซ็นสัญญาแวร์ซายลงไปแล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ก่อสงครามขึ้นมาอีก หากมองในแง่มุมหนึ่ง 20 ปีแห่งความสงบนี้ก็เหมือนกับเป็นการโหมโรงของสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
.
3 April 1922 – Rise of Stalin
.
ความเจ็บป่วยของเลนินเหมือนเป็นใบเบิกทางสู่อำนาจของสตาลิน แม้ว่าเลนินจะไม่อยากให้สตาลินเป็นผู้นำของโซเวียตก็ตาม แต่สตาลินก็ค่อยๆ เข้าควบคุมรัสเซียอย่างช้าๆ และสตาลินก็ใช้โปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อที่มีรูปตัวเองแต่มีเลนินอยู่ด้านหลังให้เหมือนกับว่ามีเลนินเป็นที่ปรึกษา
.
31 October, 1922 – Mussolini and March on Rome
.
มาร์ชที่กรุงโรมของมุโสลินีเป็นการประกาศถึงชัยชนะฉลองการเป็นรัฐมนตรีและแสดงออกถึงการเข้ามามีอำนาจในอิตาลี กษัตริย์ Victor Emanuele ที่สาม กลัวการมีสงครามกลางเมืองเกินไป จึงได้ส่งต่ออำนาจแก่มุโสลินี ทำให้ลัทธิฟาสซิสม์ในอิตาลีได้เกิดขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
.
5 October 1925 – Treaty of Locarno
.
สนธิสัญญาโลคาร์โนได้แบ่งพรมแดนยุโรปเป็นสองประเภทคือยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตกได้รับการรับรองจากสนธิสัญญาโลคาร์โน และยุโรปตะวันตกนั้นจะมีการพิจารณาแก้ไขอีกครั้ง สนธิสัญญานี้ทำให้มีการปรับเปลี่ยนพรมแดนด้านตะวันตกของเยอรมนีและเป็นการแก้ไขสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อเยอรมนีในสนธิสัญญาแวร์ซาย
.
29 October 1929 – Black Tuesday
.
วิกฤตตลาดหุ้นวอลสตรีทของอเมริกาในปี ค.ศ. 1929 ไม่ได้สร้างความหายนะให้แก่อเมริกาเท่านั้น แต่มันยังส่งผลมาถึงประเทศเยอรมนีด้วย ผลกระทบจากวิกฤตนี้ทำให้อัตราการว่างงานในประเทศเยอรมนีสูงขึ้นเกือบ 30% ในปี 1932 และไม่ใช่แค่เยอรมนีเท่านั้น ยุโรปทั้งหมดก็โดนกันไปเต็มๆ บนโปสเตอร์เป็นแคมเปญที่ว่า “ฮิตเลอร์คือความหวังสุดท้ายของพวกเรา”
.
18 September 1931 – Japan invades Manchuria
.
ประเทศญี่ปุ่นมีความทะเยอะทะยานและมีแผนที่จะขยายอำนาจออก ในปีค.ศ. 1931 แม้ว่าตอนนั้นสงครามรัสเซียใกล้จะเกิดขึ้นก็ตาม แผนการยึดจีนของญี่ปุ่นก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อใช้รูปเด็ก ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้หายากมากเท่าไหร่
.
30 January 1933 – Hitler becomes Chancellor of Germany
.
30 มกราคม ค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ในทางเทคนิคแล้วก็ถือว่ามาตามกฎหมาย พรรคนาซีของฮิตเลอร์เป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในสภาแต่ไม่ได้มีเสียงเกินครึ่ง หลังจากการถูกรับเลือกได้ไม่นานฮิตเลอร์ก็ไม่เอาประชาธิปไตยอีกต่อไป ในโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อนี้บอกว่า “ในความต้องการจากส่วนลึกที่สุด ไฮเดนเบิร์กเลือก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรี คุณก็ควรโหวตให้เบอร์ 1”
.
2 October 1935–May 1936 Fascist Italy invades, conquers and annexes Ethiopia
.
หลังการประกาศศักดาด้วยมาร์ชที่กรุงโรม มุโสลินีได้ฝันถึงการฟื้นคืนของอาณาจักรโรมโบราณ และกรีฑาทัพบุกยึดอะบิซสิเนีย (ปัจจุบันคือเอธิโอเปีย)
.
IX. 7 July 1937 – Japan defeats China in the Battle of Peking
.
แผนการขยายอำนาจและอิทธิผลของญี่ปุ่นในเอเชียนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่วนภัยคุกคามอย่างเดียวก็คืออีกด้านของทะเลแปซิฟิก ประเทศสหรัฐอเมริกาและกองทัพเรือสหรัฐ ในภาพโปสเตอร์เป็นรูปคนจีนและคนญี่ปุ่นเหมือนเป็นพี่น้องกันมาร่วมกันสร้างสันติให้แก่เอเชียตะวันออก
.
13 March 1938 – Anschluss – Nazi Germany incorporates Austria
.
อำนาจและขอบเขตของประเทศเยอรมนีแผ่ขยายไปอย่างช้าๆ ในปี 1938 ออสเตรียได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไรช์ที่สามทั้งเศรษฐกิจและกำลังพล ในภาพโปสเตอร์บอกถึงสโลแกน “ชาติเดียวกัน รัฐเดียวกัน ผู้นำคนเดียวกัน”
.
29 September 1938 – Sudetenland and Appeasement
.
ฝรั่งเศสและเกาะบริเตนได้ทำข้อตกลงกับอาณาจักรไรช์ที่สามเรื่องยก Sudetenland ให้กับเยอรมัน โดยหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นเครื่องการันตีถึงสันติภาพของยุโรปและทำให้ฮิตเลอร์พอใจได้ แต่ผิดแล้ว พวกเขาคิดผิดจริงๆ
.
XII. 1 September 1939 – Germany invades Poland
.
ไม่มีความสงบอีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางไหนที่จะสามารถหยุดอาณาจักรไรช์ที่สามได้ คำสัญญา สนธิสัญญาต่างๆ ไร้ความหมายและสงครามโลกครั้งที่สองได้เริ่มต้นขึ้น ในภาพโปสเตอร์ “ที่แรกที่ต้องต่อสู้” โปแลนด์เป็นประเทศแรกที่โดนบุกอย่างเต็มรูปแบบจากนาซี
.
ที่มา : warhistoryonline , spokedark