เราไม่จำเป็นต้องวัด IQ ในการประเมินความฉลาดของคน เรามี 11 ลักษณะของคนที่ฉลาดมาให้ดูกัน ทุกคนจะเอาไปสังเกตคนที่เราคุยด้วย หรือเอามาสังเกตตัวเองก็ได้นะ
.
11. รู้ตัวเวลามีคนโกหก
.
คนฉลาดรู้เวลาที่มีคนพยายามหลอกเขาและจะไม่ให้คนพวกนั้นหลอกเขาได้ คนฉลาดยังเข้าใจจุดประสงค์ แรงจูงใจ และความปรารถนาของคนอื่น
.
10. สามารถเติมเต็มชีวิตด้วยตัวเองได้
ถึงจะรักแฟน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้ทั้งชีวิตหมุนวนรอบแฟน คนฉลาดมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีงาน ญาติ และงานอดิเรก
.
9. บางทีก็ไม่ค่อยมีระเบียบ
.
อพาร์ทเมนต์ของคนฉลาดจะไม่ได้สะอาดอยู่เสมอ บางครั้งมันก็รถเพราะมีอย่างอื่นที่ด่วนและสำคัญกว่าการทำความสะอาดให้ทำ
.
8. ไม่โกหกตัวเอง
ไม่โกหกคนอื่นด้วยเพราะการโกหกจะมีผลตามมาในอนาคต แล้วก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปั้นเรื่องโกหก
.
7. สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เมื่อจำเป็น
.
คนฉลาดจะไม่เก็บหรือซ่อนความรู้สึกที่แท้จริง แต่ว่าพวกเขาก็รู้ขีดจำกัด ไม่ดีถ้าจะเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความสูญเสียและความเสียใจ เรื่องอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ให้มันแล้วไป
.
6. วางแผนเสมอ
เวลาที่มีเรื่องสำคัญ คนฉลาดมักจะชอบลงมือทำแทนที่จะเอาแต่ฝัน คนฉลาดจะวิเคราะห์สถานการณ์และคำนวณทางเลือกที่เป็นไปได้
.
5. คนฉลาดชอบขี้เกียจเป็นบางครั้ง
.
งานวิจัยใหม่บอกว่า การขี้เกียจอาจเป็นสัญญาณของความฉลาด งานวิจัยนี้แบ่งคนออกเป็น 2 พวก คือพวกชอบคิดกับพวกชอบทำ คนกลุ่มที่ 2 กระตุ้นการทำงานในสมองได้กว่า ส่วนคนกลุ่มชอบคิด ชอบแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและใช้เวลาที่เหลือทำตัวกระตือรืนร้นน้อยลง นักวิจัยบอกว่า “พวกที่ไม่ใช่นักคิด” จะเบื่อง่ายและก็รู้สึกว่าต้องหากิจกรรมต่างๆ มาเติมเต็มเวลาว่างของพวกเขา
.
4. ไม่ยึดติดกับอดีต
คนฉลาดให้คุณค่ากับประสบการณ์และความทรงจำ แต่ไม่ชอบติดอยู่กับเรื่องที่เคยได้พูดได้ทำ พวกเขาวางแผนอนาคตในขณะที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน และก็มีความสุขดี
.
3. ทำผิดพลาด
.
ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ชีวิตก้าวหน้า แค่ต้องระวังอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ
.
2. ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใคร
ไม่ต้องพูดว่า “ฉันฉลาดที่สุด!” ในทุกที่ ไม่ต้องอวดฉลาดใส่คนอื่น มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทำ
.
1. รู้ว่าอัตราส่วนความยาวนิ้วคืออะไร
.
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Behavioural Brain Research บอกว่า อัตราส่วนของนิ้วชี้และนิ้วนางสามารถคำนวณได้โดยหารความยาว ถ้าอัตราส่วนต่ำ คนคนนั้นมักจะแข็งแรงและกระตือรือร้น ถ้าอัตราส่วนสูง คนคนนั้นจะมีความสามารถในการจำรูปภาพได้ดีกว่า นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ความยาวของนิ้วชี้ถูกกำหนดโดยระดับของเทสโทสเทอโรนที่คนคนหนึ่งมี ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้เชิงมิติสัมพันธ์ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้ใช้ได้กับทุกคนหรอกนะ
.
ที่มา : brightside | kidjarak
