ถึงเงินจะไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่สำหรับคนที่มีเงินในจำนวนมหาศาล พวกเขาก็มักจะมีสิทธิพิเศษเหนือระดับ หรือแม้กระทั่งโอกาสที่จะสัมผัสบริการระดับหรูในแบบไม่เหมือนใคร
บริการเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าอภิมหาเศรษฐี ที่รวยในระดับ 1% ของสังคม ซึ่งสิ่งที่พวกเค้าได้รับ ก็นับว่าหรูจริงๆ หรือคุณอาจไม่นึกเลยว่ามันมีบริการเหล่านี้อยู่จริงรึนี่ แต่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ทุกคนต่างต้องผ่านอะไรมากมาย
.
1. ประกันระดับท็อปสุดขีด
.
เมื่อไหร่ก็ตามที่มหาเศรษฐีต้องเผชิญกับโคตรพายุเฮอร์ริเคน หรือพื้นที่ที่น้ำท่วมพังยับ หรือไม่ก็มีการเกิดประท้วง บริษัทประกันสามารถส่งเฮลิคอปเตอร์ ไม่ก็หน่วยที่เหมือน SWAT จากเอกชน เข้าไปช่วยดูแลคุ้มครองคุณทันที ตลอดจนขนย้ายสินทรัพย์ไปถึงที่ที่ปลอดภัย
.
2. พี่เลี้ยงภาคดึก ผู้ไม่เคยพักผ่อน
.
เมื่อไหร่ก็ตามที่ดาราหรือคนดังต้องให้นมลูก พี่เลี้ยงพิเศษเกรดหรูเหล่านี้จะคอยช่วยเข้าไปปลุกดาราให้ตื่น จากนั้นเมื่อคนดังให้นมลูกเสร็จ พวกเธอก็จะรับหน้าที่กล่อมหนูน้อยจนกว่าจะเข้านอน
.
3. เอเย่นคอยจัดการตารางเดินทางส่วนตัวครบครัน
.
เมื่อคุณรวยเละ ก็จะมีเอเย่นที่คอยเข้ามาเสนอบริการในการจัดการทั้งจองตั๋ว หรือสรรหาโรงแรมให้ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาอะไรในการเดินทาง รึไม่ก็ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับทุกสิ่ง เอเย่นเหล่านี้ก็พร้อมจะดูแลคุณเต็มความสามารถ
.
4. สไตลิสต์ต้นคริสมาสต์ (Christmas Tree)
.
เมื่อปีใหม่มาถึง ต้นคริสมาสต์ก็มักจะเป็นของประดับบ้านยอดนิยม และคนที่รวยมหาศาลมักมีสไตลิสต์ส่วนตัว สำหรับทำต้นคริสมาสต์แฮนเมด ในระดับราคา 20,000 เหรียญ (ราว 660,000 บาท) ต่อต้น และเมื่อเทศกาลผ่านไปต้นคริสมาสต์พวกนี้ก็ต้องถูกทิ้ง
.
5. มี Personal Shopper ส่วนตัว
.
Personal Shopper (นักรับจ้างช็อปปิ้งส่วนตัว) จะคอยตามเทรนด์แฟชั่นทุกอย่างที่คนรวยต้องรู้ และคนรวยสามารถสั่งว่าจะติดตามผลงานดีไซน์เนอร์คนใดบ้าง โดยคนรับจ้างช็อปปิ้งจะวัดขนาดตัวลูกค้าแบบละเอียดยิบ พร้อมเก็บข้อมูลรสนิยม เพื่อที่จะพร้อมซื้อของอะไรก็ตามที่เศรษฐีต้องการได้แบบทันที โดยที่เศรษฐีไม่ต้องไปเดินให้เมื่อยขา
.
6. แพทย์ส่วนตัวส่งถึงบ้าน
.
เศรษฐีอาจไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลเสมอไป เพราะจะมีทีมแพทย์เฉพาะกิจคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และเศรษฐีจำนวนมากมักต้องการความเป็นส่วนตัว ในช่วงเวลาที่ใกล้หมดลมหายใจ
.
7. ผู้จัดการความเจ้าชู้ของเพลย์บอยมหาเศรษฐี
.
เพลย์บอยระดับมหาเศรษฐีมักมีผู้จัดการส่วนตัว ที่คอยเคลียร์เรื่องเจ้าชู้โดยเฉพาะ อาทิหากเศรษฐีเพลย์บอยไปติดพันกับสาวคนใดบนเรือสำราญกลางทะเล เช้าถัดมาผู้จัดการเหล่านี้ก็จะคอยเคลียร์ให้ โดยจะพาผู้หญิงเหล่านั้นกลับไปส่งขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย
.
8. ฉายหนังแบบทันโรง
.
มหาเศรษฐีไม่จำเป็นต้องเข้าโรงหนังก็ได้ เพราะมีบริการที่ส่งหนังเพิ่งเข้าโรงให้เศรษฐีเหล่านี้ชมทันที ค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 35,000 เหรียญ (ประมาณ 1,100,000 บาท)
.
9. ห้องส่วนตัวในคอนเสิร์ตหรู
.
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคอนเสิร์ตจัดขึ้นในสถานที่หรู อาทิ Madison Square Garden เศรษฐีจะมีห้องส่วนตัวให้พัก อีกทั้งห้องดังกล่าวยังสามารถเดินเชื่อมไปยังห้องล็อบบี้ส่วนตัวของดารา หรือนักดนตรีอีกด้วย
.
10. ฮีตเตอร์ละลายหิมะส่วนตัว
.
ปกติถ้าบ้านไหนหิมะตก เจ้าของบ้านหลังนั้นๆก็มักต้องออกมาตักเพื่อเคลียร์เส้นทาง แต่บ้านเศรษฐีไม่ต้องเหนื่อยแบบนั้น เพราะมีฮีทเตอร์สำหรับละลายถนนส่วนตัวเลย ทำให้หิมะไม่เกาะเหมือนบ้านอื่น
.
11. ระบบควบคุม Crestron Security System
.
เศรษฐีมักมีบ้านที่มาพร้อมกับระบบควบคุมระดับพระกาฬ พวกเขามักมีอุปกรณ์หน้าตาคล้าย iPad ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่เพลง อุณหภูมิ ไปจนถึงสัญญาณเตือนภัย
.
12.มีผู้เชี่ยวชาญดูแลทุกเรื่องราว
.
เศรษฐีแต่ละบ้านมักมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลครบทุกด้านในชีวิต ซึ่งนี่เป็นบริการระดับหรูที่ประกอบด้วยคนตั้งแต่นักบัญชีระดับท็อป,ผู้จัดการกองทุน,ทนายสำหรับเรื่องภาษี,ทนายส่วนตัว,ผู้เชี่ยวชาญประกันภัยไปจนถึงคนวางแผนทางการเงิน
.
13. เครื่องบินหรูส่วนตัว ที่ไม่ต้องเสียเวลาตรวจนั่นตรวจนี่
.
หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า ‘เจ็ทส่วนตัว’ ของเหล่าเศรษฐีกันมาบ้าง แต่ที่อาจไม่คุ้นคือเครื่องบินพวกนี้มักมีอภิสิทธิ์เหนือปกติมาก ตั้งแต่ไม่ต้องเสียเวลาตรวจ หรือสแกนสัมภาระ หรือเช็คความปลอดภัย
.
14. Amex Platinum และ Black Card Concierge
.
เศรษฐีจะมีบัตรแพลทินัมติดตัวเสมอ และการ์ดเหล่านี้จะคอยสั่งจ่ายเพื่อสิทธิพิเศษมากมาย ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน,ค่าแต่งงาน,ค่าเสียเวลาสำหรับหมอ หรือแม้แต่จ้างบริการหรูไปรับลูกจากที่โรงเรียน หรือที่ไหนก็ได้ตามปราถนา
.
แต่พอเอาเข้าจริงไม่ว่าจะรวยหรือไม่รวย ทุกคนต่างก็มีปัญหาและความเครียดในแบบของตนเอง และถึงแม้เราจะไม่มีเงินมากมาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความสุขไม่ได้ เพราะความสุขมันขึ้นอยู่กับนิยามของเราเองว่าเราจะกำหนดให้มันเป็นอย่างไร
.
ที่มา : Businessinsider | kidjarak