นักโบราณคดีค้นพบมัมมี่โบราณ และเชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่อาจมาจากนอกโลก

เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบซากสิ่งมีชีวิตอายุหลายพันปีในอเมริกาใต้ที่เมือง Nazca ประเทศเปรู ซึ่งตอนที่ค้นพบเป็นครั้งแรกนั้นคนที่พบก็เข้าใจว่ามันเป็น “ซากศพของมนุษย์” แต่แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะหลังจากที่ตรวจสอบมือของสิ่งที่เข้าใจว่าเป็นซากศพก็พบว่ามันไม่ใช่

.

โดยตอนแรกนั้นนักโบราณคดีคิดว่าพวกเขาพบมัมมี่โบราณในทะเลทราย Nazca

.

แต่หลังจากที่ส่งมันไปตรวจสอบที่สถาบันก็ทำให้ทุกคนถึงกับเงิบเลยทีเดียว เมื่อพบว่ามันไม่เหมือนซากศพของมนุษย์ที่เคยเห็นมาก่อนเลย และนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสำรวจลึกลงไปและคิดว่ามันอาจเป็นสิ่งมมีชีวิตบนโลกก็ได้

.

โดยเชื่อกันว่ามีความเป็นไปได้ที่มันจะเป็น “มนุษย์ต่างดาว” นอกจากนี้นักโบราณคดียังพบแผ่นหินแกะสลักในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย เหมือนกับว่ามันบันทึกว่ามนุษย์ต่างดาวเคยมาที่โลก

.

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเท้าของซากศพมีลักษณะผิดแปลกแตกต่างไปจากของมนุษย์มาก

.

ซากศพที่พบนั้นอยู่ในสภาพนอนขดตัวราวกับทารก เหมือนกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง

.

รูปร่างของกะโหลกศีราะและนิ้วมือนิ้วเท้าที่ยาวและมีเพียงข้างละ 3 นิ้วทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจ นอกจากนี้ยังตรวจสอบได้อีกด้วยว่ามีส่วนสูงถึง 1.67 เมตรเลยทีเดียว แสดงให้เห็นได้วว่าร่างกายใหญ่กว่ามนุษย์มาก

.

ซากศพที่พบนั้นมีกะโหลกที่โดดเด่นกว่ามนุษย์ ทั้งยังมีจมูก หู และมือกับเท้าขนาดใหญ่เพียงแต่มีแค่ข้างละสามนิ้วเท่านั้น

.

และคนในกลุ่ม Gaia ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการค้นพบนี้เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและมีความเป็นไปได้ที่มนุษย์ต่างดาวอาจจะผลักดันช่วยให้คนโบราณค้นพบหลายสิ่งหลายอย่างจนนำไปสู่การพัฒนนา

.

ซากศพถูกวิเคราะห์และตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย โดยนักวิทยาศาสตร์ตรวจจากสภาพศพและเชื่อว่ามันเคยมีชีวิตอยู่ระหว่างปี 245 – 410

.

การแกะสลักพืชและหินปรากฎมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และบางครั้งมันเป็นภาษาที่อธิบายไม่ได้ทำห้หลายคนเชื่อว่ามันเป็นภาษาของมนุษย์ต่างดาว

.

หลังจากเห็นสภาพมัมมี่ลึกลับนี้แล้วก็ทำให้หลายคนตั้งคำถามในใจว่า มนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลกนานหรือยัง…? หรือมันอาจเป็นเพียงซากศพของมนุษย์ที่มีความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับร่างกายก็ได้..?

.

จึงต้องมีการตรวจสอบโดยใช้หลักฐานจากการทับซ้อนของคาร์บอน หรือสแกนและเอ็กซ์เรย์ด้วยรังสี

.

นอกจากนี้กุญแจสำคัญคือ การตรวจสอบ DNA โดยกลุ่ม Gaia ได้ทำการตรวจสอบ DNA และยืนยันได้ว่ามันเป็นเพศหญิง

.

เรื่องราวเริ่มโด่งดังและทำให้หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงและเคยมาเยือนโลก แต่แล้วนักวิทยาศาสตร์หลายคนจากสถาบันต่างๆ ก็ออกมาเปิดเผยว่ามันเป็น “เรื่องหลอกลวง”

.

โดยคาดว่ามันอาจเป็นซากมัมมี่ของจริง เพียงแต่มีคนจัดฉากให้มันมีลักษณะแปลกประหลาด

.

และเมื่อทำการตรวจสอบก็พบว่าซากศพนี้มีลักษณะคล้ายมนุษย์มาก มีแขนและขาสองข้าง ทั้งยังมีหัวยาวมากอีกด้วย รวมถึงร่างกายปกคลุมด้วยฝุ่นสีขาวๆ ซึึ่งัยงไม่ทราบว่ามันคืออะไร

.

และในขณะที่นักวิจัยกำลังตรวจสอบความจริงให้ลึกลงไปกว่านั้น พวกเขาก็พบความจริงทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปริศนาอีกต่อไป เมื่อพบว่าฝุ่นสีขาวไม่เป็นผลมาจากร่างกายที่แห้งลง แต่มันคือ “ปูนปลาสเตอร์” นั่นเอง

.

ดูเหมือนว่าจะมีคนเล่นสนุกจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว

.

และเมื่อตรวจสอบไปอีกก็พบว่าไม่มีเอกสารใดๆ เกี่ยวกับการค้นพบนี้เลย ดังนั้นมนุษย์ต่างดาวก็ยังคงเป็นเรื่องปริศนาหรืออาจไม่มีจริงในโลก และชัดเจนเลยว่ามีคนสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกลวงคนอื่นแน่นอน…!

.

ที่มา : lifebuzz | clipmass