10 สถานที่อุณหภูมิสูงพิชิตจุดเดือด! ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต

ถ้าคุณเคยคิดว่าเมืองไทยนั้นร้อนในระดับต้นๆ ของโลก ลองหาโอกาสไป 10 ประเทศเหล่านี้ดูสักครั้ง แล้วจะพบว่าอากาศเมืองไทยนั้น อาจจะเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับระดับความร้อนจนต้อง “ร้องขอชีวิต” ในประเทศเหล่านี้

hot-countries-world-11

.

อันดับ 10: เม็กซิโก

.

ดินแดนจังโก้ของทุ่งหญ้าแห่งผาก อาหารรสจัด ดนตรีสไตล์เฉพาะ สาวสวยตาคม และหาดทรายสีขาวสะอาดสุดลูกหูลูกตา เม็กซิโกเป็นที่หมายสำคัญของเหล่าอเมริกันเสรีชนที่จะเดินทางข้ามพรมแดนเพื่อการพักผ่อน ตากอากาศ และเปลี่ยนสีผิวให้แทนสวยในตลอดหน้าร้อน ซึ่งก็แน่นอน เพราะทำเลที่ตั้งใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้อากาศของประเทศนี้สามารถไต่ระดับอย่างสวยงามที่ 50 องศาเซลเซียสได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นนั้น เราก็ไม่ค่อยแปลกใจ ที่ทำไมในหนังคาวบอยยุคเก่า พวกมือปืนเม็กซิกันถึงได้ชักปืนไวยิงปืนแม่นปานนั้น ก็อากาศร้อนแบบนี้ จะมาทำอะไรยึกๆ ยักๆ คงไม่เข้าท่าเท่าไรนักหรอก

.

อันดับ 9: โซมาเลีย

.

ประเทศบริเวณปลายแหลมทวีปอาฟริกาแห่งนี้ เป็นดินแดนที่เป็นที่สุดในหลากหลายด้าน ตั้งแต่เป็นประเทศความปลอดภัยต่ำจนเรี่ยพื้น (จากสงครามแบ่งแยกดินแดน และการก่อการร้าย) และอุณหภูมิที่สูงทะยานแตะระดับ 50 องศาเซลเซียสได้สบาย และนั่นทำให้ประชาชนชาวโซมาเลียประหนึ่งโดนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะความแห้งแล้งชนิดหญ้าคาก็ตายได้นี้ ส่งผลต่อการเพาะปลูกและการชลประทานอย่างร้ายแรง พอไม่มีจะกิน ก็ต้องจับปืนไปทำสงครามกัน นั่นอาจจะทำให้สรุปได้ว่าความร้อนเป็นบ่อเกิดของสงคราม (รึเปล่า?)

.

อันดับ 8: อินเดีย

.

คุณอาจจะเถียงขาดใจว่าอินเดียนั้นร้อนตรงไหน ด้านเหนือก็มีภูเขาหิมาลัยตั้งตระหง่านหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี แต่นั่นก็เป็นแค่พื้นที่เดียว ด้วยทำเลที่ตั้งใกล้มหาสมุทรอินเดียแถบศูนย์สูตร ลมทะเลที่หนุนเข้ามาจึงร้อนและเหนียวชื้นจนแทบจะทำให้เขาไกรลาสลุกไหม้เป็นจุณ โดยเฉพาะกับเมืองท่าชายทะเลแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเมืองโกอาและเคราลา แต่ยังดีที่หน้าร้อนของอินเดียนั้น ถูกคั่นจังหวะรายการด้วยฤดูฝนที่ตกหนักตลอดทั้งปี และหน้าหนาวที่แทบจะสั่นไปถึงกระดูก นับว่าโชคดีเสียจริงๆ (เหรอ?)

.

อันดับ 7: ซูดาน

.

คุณลองนึกภาพประเทศที่พื้นที่ทั้งหมดนั้นเป็นทะเลทราย ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นมาแม้แต่นิด และแทบไม่เจอเม็ดฝนเลยตลอดปีตลอดชาติ เอาปัจจัยทั้งหมดมาขยำรวมกัน คุณจะได้ประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาอย่างซูดานที่ปัญหาความแห้งแล้ง กำลังกลายเป็นวาระสำคัญ เพราะมันคงไม่ดีแน่ ถ้าจะปล่อยให้ความร้อนที่จะบดขยี้ผู้คน ต้นไม้ใบหญ้า และสัตว์พันธุ์ต่างๆ กับอุณหภูมิที่เดือดปะทุถึง 52 องศาเซลเซียสในวันที่พระอาทิตย์พิโรธเต็มพิกัดได้ลอยนวลต่อไป (แต่ก็ยังไม่มีแนวทางอะไรที่เป็นรูปธรรมมากนัก)

.

อันดับ 6: โอมาน

.

หนึ่งในประเทศผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ร่ำรวยจนเกินจินตนาการ และอุณหภูมิของประเทศที่ร้อนจนเกินจะจินตนาการพอกัน เพราะสูงถึง 50-53 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 3-6 เดือน!! (แม่เจ้า!!!) แถมน้ำฝนก็น้อย ทั้งยังจำกัดอยู่ในพื้นที่หุบเขาบางส่วน แต่ความรวยก็ช่วยให้การแก้ปัญหาร้อนๆ เหล่านี้ของประเทศโอมานตกไปอย่างง่ายดาย เพราะทุกสิ่งในประเทศนี้ก็พร้อมใจกัน ‘ปรับอากาศ’ กันอย่างพร้อมเพรียง บางครั้งความรวยก็ช่วยได้ในหลายกรณี…

.

อันดับ 5: อิหร่าน

.

ความสุดโต่งไม่พอดีมักสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ นั่นหมายรวมถึงอุณหภูมิที่สวิงเป็นรถไฟเหาะของประเทศอิหร่าน เพราะมีทั้งอากาศหนาวสุดๆ และร้อนสุดๆ ในประเทศเดียว พื้นที่ตอนเหนือที่ถูกขนาบด้วยช่องเขานั้น อุณหภูมิต่ำสุดๆ ชนิดที่ไม่เกิน 29 องศาเซลเซียสในหน้าร้อน แต่สำหรับพื้นที่อื่นๆ … 40-45 องศาเซลเซียสในเวลาปกติสำหรับหน้าร้อน และ 50 องศาเซลเซียสถ้าเป็นวันที่สูงที่สุด แม้ว่าความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตจะเป็นสิ่งที่ดี แต่เราก็ไม่คิดว่าการยืดหยุ่นกับอุณหภูมิที่น่ากลัวเช่นนี้ จะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

.

อันดับ 4: อัลจีเรีย

.

อากาศร้อนกับทวีปแอฟริกาดูจะเป็นของคู่กันแบบขาดไม่ได้ ซึ่งมันถูกพิสูจน์มาแล้วนักต่อนัก รวมถึงอัลจีเรีย ที่สวยงามด้วยทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา และทะยานไปได้สูงถึง 50-53 องศาเซลเซียส ร้อนขนาดอบไก่สุกจนไหม้ได้ครึ่งตัว แค่คิดก็เหนื่อย แทบไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่า คนที่ต้องอยู่อาศัยใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ พวกเขาทำได้อย่างไร?

.

อันดับ 3: อิรัก

.

ถ้าคิดว่าอิรักนั้นอันตรายเฉพาะสงครามกลางเมือง ระบบตำรวจลับอันแน่นตึง หรือการเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้าย ISIS ในภูมิภาคแล้วนั้น ขอให้คิดใหม่ เพราะถ้าไม่ตายจากเหล่าผู้ก่อการร้ายแล้วล่ะก็ อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 40 องศาเซลเซียส และสูงสุดที่ 50 องศาเซลเซียสจะเป็นตัวปิดฉากไม้สุดท้ายได้โดยที่ไม่ต้องร้องขอชีวิตใดๆ

.

อันดับ 2: ซาอุดิอาระเบีย

.

เราขอให้คุณจินตนาการภาพการใช้ชีวิตในประเทศตะวันออกกลางที่ล้อมรอบด้วยทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา รวมกับอุณหภูมิที่ทะยานได้ถึง 54 องซาเซลเซียสนั้น คุณคิดว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตกันลำบากแค่ไหน? ไม่ใช่กับซาอุดิอาระเบียแน่ๆ เพราะแม้จะร้อนจนเผาไหม้เป็นจุณ แต่เช่นเดียวกับโอมาน สาธารณูปโภคต่างๆ ของประเทศ ก็ได้รับการ ‘ปรับอากาศ’ อย่างพร้อมเพรียง ชนิดไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย

.

อันดับ 1: ลิเบีย

.

ขอต้อนรับสู่นรกบนดิน!!!! ถ้าเก้าอันดับที่ผ่านมาไม่ทำให้คุณต้องสะท้านกับอากาศร้อนๆ แล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ตีตั๋วแล้วบินไปลิเบียได้เลย เพราะนี่คือกระทะทองแดนบนโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ทะเลทรายล้อมรอบ อากาศร้อนจนตาลายเป็นภาพหลอน และสูงทิ้งห่างจากอี่นๆ แทบไม่ติดฝุ่น เช่น อุณหภูมิที่เคยวัดได้ในปี 1922 นั้นคือ….57.8 องศาเซลเซียส! อีกแค่สองเซนนิๆ ก็จะแตะหกสิบ เหลืออีกสี่สิบปรอทแตก (แต่คาดว่าร่างกายคงสลายไปก่อนหน้านั้น…) ถ้าคุณคิดว่าตัวเองทนทายาด (หรืออยากแสวงหาที่ตาย) ลิเบียจะต้องเป็นที่หมายที่คุณโหยหา

.

ที่มา : listcrux