15 เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับการมีประจำเดือนและความขมขื่น ที่ผู้หญิงในอดีตยากจะหลีกเลี่ยง

ในอดีตกาล วิทยาศาสตร์หรือความรอบรู้ยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่ากับปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความเชื่อหลายๆ อย่างที่ผิดไปจากความเป็นจริง อย่างเช่นความเชื่อในเรื่องประจำเดือนของผู้หญิง ช่วงก่อนศตวรรษที่ 19 แพทย์ในยุคนั้นเชื่อว่าผู้หญิงหลั่งเลือดออกมาเพื่อระบายความร้อน อารมณ์และความรู้สึกที่ผิดปกติ ซึ่งมันผิดไปจากความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ แต่คนในยุคนั้นไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน นอกจากความเชื่อแบบนี้แล้ว ยังมีความเชื่อหรือตำนานแปลกๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของประจำเดือน เราลองไปรับรู้พร้อมๆ กันเลย

.

1. ชาวโรมันโบราณเชื่อว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนคือแม่มดมนต์ดำ

.

นักปรัชญาชาวโรมัน Pliny The Elder บอกว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนจะสามารถบังคับพายุฝนฟ้าคะนอง ลมบ้าหมู ฟ้าผ่า และความแห้งแล้งอุดมสมบูรณ์ได้ รวมถึงเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัวอย่างการฆ่าสัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายเพื่อแค่การมอง เลือดเมนส์ที่ไหลออกมาก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดหมาบ้าขึ้นมาอีกต่างหาก

.

2. ชาวอียิปต์โบราณนำกระดาษพาไพรัสแบบอ่อนมาใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอด

.

ชาวอียิปต์ใช้กระดาษดังกล่าวพันรอบๆ แท่งไม้เพื่อใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอดและช่วยในเรื่องของการคุมกำเนิด ในขณะที่ชาวโรมันใช้ขนสัตว์ในการทำผ้าอนามัยแบบเดียวกัน

.

3. ชาวยุโรปในยุคกลางจะเผาคางคกเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น

.

นักประวัติศาสตร์ Amy License บอกถึงวิธีการที่ง่ายมากๆ เพียงแค่จับคางคกมาเผาในหม้อ แล้วนำขี้เถ้าของมันไปใส่ถุงเอาไว้ โดยพกพาถุงที่ใส่ขี้เถ้านั้นให้มันอยู่ใกล้ๆ กับช่องคลอด เท่านี้เลือดลมก็ไหลเวียนดีขึ้นแล้ว

.

4. ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนที่เมนส์มาจะทำให้มีสัตว์ประหลาดคลอดออกมา

.

ตามข้อมูลจาก The Curse: A Cultural History of Menstrution บอกว่า การที่เรามีเซ็กส์ตอนเมนส์มาจะทำให้มีสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัว น่าขยะแขยง เกิดขึ้นมาได้ ตามความเชื่อของชาวฝรั่งเศสเมื่อครั้งอดีต

.

5. ชาวยุโรปในยุคกลางคิดว่าเลือดประจำเดือนสามารถรักษาโรคเรื้อนได้

.

นี่เป็นความเชื่อของแม่ชี Hildegard von Bingen ที่มีความสามารถทางการแพทย์ในยุคนั้น และยังมีความเชื่ออื่นๆ ที่บอกว่า การมีเซ็กส์กันในตอนที่ผู้หญิงเป็นเมนส์จะทำให้จุ๊ดจู๋ของหนุ่มๆ ขึ้นสนิม หรือถ้าหากดื่มเลือดประจำเดือนก็จะทำให้เราเป็นโรคเรื้อนได้ ซึ่งตกลงจะใช้รักษาหรือทำให้เป็นโรคก็ต้องเสี่ยงดวงเอาเอง

.

6. เลือดประจำเดือนคือยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศชั้นยอด

.

ปัจจุบันยังคงมีคนที่เชื่อแบบนั้นอยู่บ้าง โดยในชาวแอฟริกันมีคำนานพื้นบ้านที่เรียกว่า Hoodoo บอกว่าการนำเลือดเมนส์ใส่ลงในกาแฟของผู้ชายจะทำให้เขาคนนั้นตกหลุมรักคุณ หรืออย่างในฮ่องกงที่มีข่าวว่าสาวใช้ชาวอินโดนีเซียเอาเลือดเมนส์ของตัวเองใส่ในอาหารของหัวหน้า เพราะหวังจะเพิ่มผลการทำงานของตัวเอง

.

7. ชาวอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 เชื่อว่าผู้หญิงที่เป็นเมนส์จะทำให้อาหารเลวร้ายกว่าเดิม

.

พวกเขาเชื่อว่าผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนจะไม่สามารถปั่นเนยหรือว่าโรยเกลือลงบนแฮมได้ ทำให้รสชาติของอาหารไม่อร่อยเหมือนทุกครั้ง

.

8. นักวิทยาศาสตร์ชาวเวียนนาในยุค 1920s คิดว่าผู้หญิงที่เป็นเมนส์จะหยุดการพองตัวของแป้งโดและการบ่มเบียร์

.

Bela Schick เชื่อว่าคนที่มีประจำเดือนจะปล่อยสารออกมาตามผิวหนัง ทำให้พืชพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้ต้องล้มตาย และเขาเรียกสารชนิดนี้ว่า Menotoxins

.

9. สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เกิดการปฏิวัติผ้าอนามัย

.

พยาบาลสาวชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าผ้าพันแผลเซลลูโลสที่ใช้กับทหารที่บาดเจ็บนั้น สามารถซับเลือดได้ดีกว่าผ้าฝ้าย ทำให้มีการเริ่มต้นใช้เจ้าสิ่งนั้นเป็นผ้าอนามัย ต่อมามันจึงกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญที่แม้แต่ผ้าอนามัยยี่ห้อ Kotex ยังต้องใช้

.

10. ในช่วงยุค 1890s ถึง 1970s ผู้หญิงตะวันตกใช้เครื่องมือแปลกๆ ต่างผ้าอนามัย

.

สาวๆ เหล่านั้นจะใช้ผ้าที่ปักเองหรือแผ่นรองที่ทำเองในการป้องกันเลือดที่จะไหลออกมา และยังมีเข็มขัดที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น ทำจากยางยืดไว้รัดรอบเอวและมีแผ่นรองผ้าฝ้ายไว้ซับเลือด จนกระทั่งช่วงยุค 1970s ก็ได้มีผ้าอนามัยอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันออกมาให้ใช้กัน

.

11. แพทย์ชาวอเมริกันคิดค้นผ้าอนามัยแบบสอดล้ำสมัย

.

ในปี 1929 ดอกเตอร์ Earle Haas คิดค้นจุกผ้าฝ้ายที่มีหลอดกระดาษแข็งสอดไว้ด้านใน เป็นรูปแบบของผ้าอนามัยแบบสอดที่ยอดเยี่ยม และเขาก็ได้จดสิทธิบัตรที่กลายมาเป็นเครื่องหมายทางการค้าของบริษัท Tampax

.

12. เด็กมัธยมปลายชาวอเมริกันในยุค 40s และ 50s จะเรียนเรื่องประจำเดือนจากวิดีโอนี้

.

Disney ’46 The Story of Menstruation

เป็นการผสมผสานระหว่างตัวการ์ตูนและเนื้อหาความรู้ได้อย่างลงตั๊วววลงตัว

.

13. ผู้หญิงบางคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมเมนส์ ตอนที่พวกเธอกำลังมีประจำเดือน

.

นี่เป็นสิ่งที่ชนเผ่า Dogon และ Mali ยังคงทำอยู่ในปัจจุบัน โดยความเชื่อของฮินดูที่เรียกว่า Chaupadi ผู้หญิงที่เป็นเมนส์ต้องแยกตัวออกไปเพราะถือว่าพวกเธอสกปรก ซึ่งในประเทศเนปาล ความเชื่อลักษณะเดียวกันนี้ถูกสั่งห้ามไปแล้วในปี 2005

.

14. ในอินเดียจะมีงานเลี้ยงฉลองเกี่ยวกับการมีประจำเดือน

.

ลัทธิศักติ (นิกายหนึ่งของฮินดู) จะจัดงานเฉลิมฉลองการมีประจำเดือนในทุกๆ ปี ขององค์เทพ Kamakhya ซึ่งงานนี้มีชื่อว่า Ambubachi Mela ทำให้มีผู้แสวงบุญจำนวนมากมารวมตัวกันในรัฐอัสซัม ประเทศอินเดีย ทุกๆ เดือนมิถุนายน

.

15. ปัจจุบันยังคงมีการเก็บภาษีผ้าอนามัย เนื่องจากรัฐบาลในหลายๆ ประเทศมองว่ามันคือของใช้ฟุ่มเฟือย

.

ที่มา metro | clipmass