5 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลก ที่ส่งผลต่อมวลมนุษยชาติอย่างใหญ่หลวง

5 เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์…ที่กล่าวได้ว่าเกือบทำให้โลกต้องถึงการอวสาน จากแชแนลดัง Top5s

.

1. ภูเขาไฟระเบิดที่อินโดนีเซีย

.

เมื่อราว 75,000 ปีก่อน ภูเขาไฟโทบาที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดระเบิดขึ้น กล่าวกันว่ามันเป็นเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่รุนแรงที่สุดในรอบสองล้านปี มีขี้เถ้าจำนวนถึง 3,000 ลูกบาศก์กิโลเมตรถูกปล่อยออกมาจากปล่องภูเขาไฟจนปกคลุมเหนือชั้นบรรยากาศของโลก และทำให้สิ่งมีชีวิตในบริเวณใกล้เคียงต้องพบกับจุดจบที่น่าเศร้า

กล่าวกันว่าเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดในครั้งนั้น ก่อให้เกิดควันพิษจากขี้เถ้าปกคลุมโลกนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว

.

2. The Atom Collider

.

นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคในชั้นใต้ดินเพื่อทดลองเร่งความเร็วของอนุภาคแล้วนำมาวิ่งชนกัน เพื่อตรวจสอบทฤษฏีทางฟิสิกส์อนุภาคว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์บางส่วนออกมาค้านว่าโครงการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดแบล็คโฮลหรือหลุมดำที่จะกลืนกินโลกทั้งใบ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายกับขั้วแม่เหล็กของโลก จนมีการยืนฟ้องต่อศาลให้มีการชะลอการทดลองดังกล่าวออกไป

.

3. กาฬโรค

.

ในช่วงยุคกลาง กาฬโรคได้แพร่ระบาดไปทั่วทวีปยุโรปจนมีผู้เสียชีวิตถึง 200 ล้านคน หรือราว 60 เปอร์เซ็นต์ของชาวยุโรป เชื่อกันว่าจุดเริ่มต้นของกาฬโรคมาจากประเทศจีนและเอเชียกลาง โดยมีตัวพาหะอย่างหนู แพร่ระบาดมาตามเส้นทางสายไหมถึงไครเมียและลามไปทั่วทวีปยุโรป

กล่าวกันว่ากาฬโรคมีผลกระทบต่อชีวิตผู้คนในยุคนั้นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในแง่สังคม เศรษฐกิจ ศาสนา กว่าประชากรยุโรปจะกลับคืนจำนวนต้องใช้เวลากว่า 150 ปีเลยทีเดียว!

.

4. ดาวเคราะห์น้อย

.

ในปี ค.ศ. 2014 NASA ได้ตรวจพบดาวเคราะห์น้อยเฉียดใกล้โลกด้วยความเร็วถึง 14 กิโลเมตรต่อวินาที หรือเร็วกว่ากระสุนปืนไรเฟิล 17 เท่า ด้วยระยะความห่างถึง 1.25 ล้านกิโลเมตร จึงทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อโลกของเรา

อย่างไรก็ตาม การโคจรเฉียดโลกของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ ได้ทำให้ NASA และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต้องเฝ้าระวังภัยจากนอกโลกมากขึ้น

.

5. สงครามนิวเคลียร์

.

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1995 เรดาห์ของรัสเซียได้ตรวจจับขีปนาวุธของอเมริกากำลังวิ่งเข้าหากรุงมอสโคว์ กองทัพรัสเซียได้เตรียมพร้อมตอบโต้ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ต่อสหรัฐ ประธานาธิบดีของรัสเซียในขณะนั้นอย่าง บอริส เยลซิน มีเวลาตัดสินใจเพียง 10 นาทีตัดสินใจเริ่มสงครามนิวเคลียร์กับอเมริกา

สุดท้ายความจริงก็ถูกเปิดเผยเมื่อขีปนาวุธดังกล่าวเป็นเพียงแค่จรวดของทีมนักวิจัยสหรัฐและนอร์เวย์ ที่ต้องการสำรวจปรากฏการณ์ ‘แสงเหนือ’ เพื่อหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์โดยบริสุทธิใจ ไม่ได้มีเจตนาเปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 3 แม้แต่น้อย

โชคดีที่ประธานาธิบดีเยลซิน ตัดสินใจอย่างแน่วแน่โดยใช้การเจรจามากกว่าการตอบโต้ด้วยความรุนแรง สถานการณ์จึงคลี่คลายไปในทางที่ดี

.

ที่มา : Top5s , spokedark