10 นักแสดงดัง ที่เผยกับสื่อนอกว่า พวกเขาเซ็งกับบทที่ตัวเองแสดงจังโว้ยย..!!

ส่วนใหญ่แล้วในระหว่างการถ่ายทำ นักแสดงต่างก็ต้องอ้างว่าตัวเองสนุกกับบทบาทที่กำลังแสดงอยู่ทั้งนั้น แต่ใครเล่าจะรู้ว่าลึกๆ แล้ว พวกเขาอาจจะกำลังรู้สึกซังกะตายกับบทที่รับอยู่ก็เป็นได้

ซึ่งอันที่จริงก็มีนักแสดงอยู่ไม่น้อยเลย ที่ระหว่างถ่ายทำเคลมว่าสนุกกับการแสดงเป็นเรื่องเป็นราว แต่ภายหลังกลับให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกไม่ชอบบทที่แสดงไปซะงั้น และทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 นักแสดงที่พวกเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ

.

1. Daniel Radcliffe – Harry Potter and the Half-Blood Prince

.

เป็นเวลาทั้งหมด 10 ปีที่พ่อหนุ่มแดเนียลเติบโตมากับบทบาทของแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่า ในจำนวนทั้งหมด 8 ภาค ส่วนตัวรู้สึกไม่ชอบการแสดงของตัวเองในภาค 6 มากที่สุด

.

2. Robert Pattinson – Twilight

.

หลายๆ คนรู้จักพ่อหนุ่มคนนี้ก็จากบทบาทหนังรักแวมไพร์ Twilight นั่นแหละ… แต่ดูเหมือนว่าเอาจริงๆ เจ้าตัวจะไม่ค่อยโอเคกับลักษณะนิสัยของบทบาทซักเท่าไหร่ เพราะครั้งหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า

“ยิ่งผมอ่านสคริปต์มากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกเกลียดเจ้าหมอนี่เหลือเกิน คนอะไรอายุ 108 ปีแต่ยังเวอร์จิ้นอยู่ ผมว่าหมอนี่มีปัญหาแล้วล่ะ”

.

3. George Clooney – Batman & Robin

.

การจะขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักแสดงยอดเยี่ยมตลอดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เช่นเดียวกับจอร์จ คลูนีย์ ที่ต้องผ่านบทบาทที่ตัวเองรู้สึกไม่ชอบมาหลายต่อหลายครั้ง

และบทบาทที่เจ้าตัวรู้สึกเฟลมากที่สุดก็คงเป็น Batman & Robin (1997) ที่ทำเอาไม่มีใครกล้าทำหนังต่อไปอีก 8 ปี ซึ่งครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยออกมาขอโทษกับสื่อมวลชนว่า “ผมไปเจอ Adam West มา (นักแสดงบทแบทแมนรุ่นก่อน) และผมก็ต้องขอโทษเขาจากใจจริง เกี่ยวกับจุกหัวนมที่อยู่บนชุดแบทแมนนั่น”

.

4. Halle Berry – Catwoman

.

ถึงแม้นักแสดงจะดูเซ็กซี่ แต่ผลที่ออกมากลับไม่เป็นอย่างที่คิด ครั้งหนึ่ง Halle Berry ได้รับรางวัล Golden Raspberry และหนึ่งในนั้นเป็นรางวัลนักแสดงห่วยแห่งปี

ถึงขนาดที่ว่าเธอต้องออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผู้กำกับว่า “ต้องขอบคุณ Warner Brothers มากเลย ที่เอาฉันไปใส่ชุดโง่ๆ นั่น แถมยังกลายมาเป็นหนังที่โคตรจะเห่ยสุดๆ”

.

5. Alec Guinness – Star Wars

.

ไม่รู้ว่าสำหรับกรณีนี้ใครควรจะขอบคุณใครดี เพราะครั้งหนึ่ง Alec Guinness เคยให้เหตุผลว่า Star Wars เป็นเหมือนขยะแห่งวงการหนังไซไฟทั่วๆ ไป

แต่หลังจากนั้น 20 ปีต่อมาเจ้าตัวก็ได้รับรางวัลออสการ์ ซึ่งในตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ได้คาดหวังที่จะจริงจังกับบทบาทของโอบีวันมากนัก แถมบทพูดก็ยียวนกวนประสาทเจ้าตัวอีก จะว่าไปแล้วงานนี้คงเหมือนบุญหล่นทับสินะ

.

6. Sean Connery – James Bond

.

“ผมเกลียดบทบาท James Bond มาโดยตลอด และถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะฆ่าแม่งทิ้งซะ!!” เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ Sean Connery ผู้รับบทเป็นสายลัย 007 นั่นแหละ

และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเกลียดบทบาทนี้เข้าไส้ เพราะหลังจากที่ภาพยนตร์โกยรายได้มหาศาลจากภาค Diamonds Are Forever ตัวนักแสดงเองก็ตัดสินมอบเงินที่ได้ทั้งหมดให้องค์กรการกุศลแทน

.

7. Sandra Bullock – Speed 2: Cruise Control

.

อีกหนึ่งผลงานการแสดงของเธอที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังดั้นด้นให้มีภาค 2 ออกมา ซึ่งผลสุดท้ายก็กลายเป็นแป๊กอยู่ดี

“หากคุณกลับไปชมการแสดงของฉันใน Speed ภาคแรก จะเห็นว่าฉันทำมันได้แย่มากๆ ไม่มีอะไรที่จะสะท้อนถึงความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ได้เลย”

.

8. Bill Murray – Garfield

.

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดแบบฮาๆ เมื่อตอนแรกสุด Bill Murray คิดว่าสคริปต์บทที่ตัวเองได้มาถูกเขียนขึ้นด้วย Joel Coen ด้วยความที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของสองพี่น้อง Coen ที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ เจ้าตัวจึงตอบตกลงรับงานทันที

แต่กลายเป็นว่า.. คนเขียนบทคือ Joel Cohen ที่ชื่อคล้ายๆ กัน ผลสุดท้ายกลายเป็นว่าเจ้าตัวก็ได้รับงานพากษ์เสียงแมวการ์ฟิลด์มาแบบงงๆ

.

9. Jim Carrey – Kick Ass 2

.

สำหรับกรณีนี้ไม่ใช่เพราะเจ้าตัวเบื่อบทบาทตัวเองอะไรหรอก ทว่าจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมยิงกราดในโรงเรียน Sandy Hook เขาก็รู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อต่อต้านความรุนแรง ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นผู้พันสตาร์สสุดเพี้ยน อย่างที่เราเห็นในหนังนั่นแหละ

.

10. Margot Robbie – Suicide Squad

.

เป็นอย่างที่เรารู้กันดีว่า Suicide Squad ไม่ประสบความสำเร็จด้านเสียงวิจารณ์เท่าที่ควร และหนึ่งในปัญหาที่ Margot Robbie รู้สึกตะขิดตะควงใจในระหว่างการแสดงมากที่สุด ก็คือเรื่องคอสตูมของ Harley Quinn นี่แหละ

เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าคอสตูมชุดนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจ มีการโชว์สัดส่วนมากไป แถมยังต้องทนกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอีกต่างหาก แต่ท้ายที่สุดผู้กำกับก็ไม่ยอมให้เปลี่ยน ด้วยเหตุผลที่ว่า… ‘บางทีเราควรเสียสละอะไรบางอย่าง เพื่อสร้างศิลปะที่ยิ่งใหญ่’

.

ที่มา: Brightside | catdumb