10 แผนการที่นักวิทยาศาสตร์นำเสนอเพื่อตั้งอาณานิคมบนอวกาศ

จนถึงตอนนี้ความคิดเรื่องการอาศัยในดาวดวงอื่นก็ยังเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่หลายๆประเทศเริ่มโครงการในการย้ายไปที่ดาวดวงอื่นแล้วเช่นดาวอังคาร หรือแม้แต่ดวงจันทร์ มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในการที่เราจะได้เห็นคนกลุ่มแรกออกไปตั้งอาณานิคมบนอวกาศ

10. เมืองแห่งเมฆบนดาวศุกร์

การอาศัยบนดาวศุกร์นั้นคงเหมือนเราสร้างบ้านบนปากทางเข้านรก อุณหภูมิที่สามารถต้มผิวหนังเราได้พร้อมด้วยบรรยากาศที่บดขยี้เรายิ่งกว่าส่วนลึกของมหาสมุทรพร้อมกับหมอกกรดซัลฟูริกที่ลอยอยู่เต็มในอากาศและนั้นยังไม่หมดเพียงแค่นั้น แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดาวศุกร์อาจจะเหมาะที่สุดในการตั้งอาณานิคม มันอาจจะดูขัดแย้งกันกับสภาพที่เรารู้มาบนผิวหน้าของดาว แต่มันจะสบายกว่ามากตราบเท่าที่เราไม่ลงไปแตะพื้นดินโดยระยะ 50 กิโลเมตรขึ้นไปบนท้องฟ้า ดาวศุกร์คือหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเข้าไปตั้งรกรากในระบบสุริยะจักรวาล เราสามารถตั้งเมืองลอยฟ้าได้เหนือก้อนเมฆบนดาวศุกร์โดยใช้บอลลูนขนาดใหญ่ ในเมืองแห่งเมฆของดาวศุกร์นั้นชีวิตจะเหมือนเช่นบนโลกแรงดึงดูดที่เกือบจะเหมือนกันและบรรยากาศที่ปลอดภัยจากรังสีดวงอาทิตย์ อุณหภูมิก็ไม่เลวร้ายโดยตอนกลางคืนอาจจะลงมาที่ 0 องศาเซลเซียสขณะที่กลางวันอาจขึ้นไปถึง 50 องศาเซลเซียสได้แต่นั้นก็แค่ทำให้คุณเหงื่อตกบ้างก็เท่านั้น

9. อาณานิคมเหมืองภายในดาวเคราะห์น้อย

ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจำกัดการอยู่อาศัยไว้ที่ดวงดาวเท่านั้นนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าอาจจะเป็นไปได้ในการตั้งรกรากบนดาวเคราะห์น้อยรอบๆระบบสะรุิยะจัรกวาล ซึ่งมันเหมาะมากที่สุดในการตั้งอาณานิคมเหมืองแร่ในอนาคตเพราะมันเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ที่ลอยในอวกาศและเต็มไปด้วยองค์ประกอบอย่างแพลทินัม บนดาวเคราะห์น้อยคุณจะทำเหมืองเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องสนใจเรื่องสภาพแวดล้อมโดยความคิดในการตั้งรกรากก็คือการตั้งสถานีอวกาศรอบดาวเคราะห์และเจาะอุปกรณ์ทำเหมืองเข้าไปในดาวเคราะห์ คนงานจะทำงานอย่างช้าๆจนกว่าเราจะได้ทุกสิ่งในนั้นจนเป็นรูขนาดใหญ่ที่เพียงพอในการตั้งรกรากตรงแกนกลางของดาว และการอยู่ภายในดาวเคราะห์แทนที่พื้นผิวยังช่วยให้เรารอดพ้นจากสิ่งที่ตกลงมายังพื้นผิวของดาวได้อีก

8. เมืองใต้ทะเลบนยูโรป้า

ยูโรป้าคือหนึ่งในดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีซึ่งปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งที่หนา ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วมันมีอะไรใต้ชั้นน้ำแข็งแต่มันมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่ามันมีมหาสมุทรซ่อนตัวข้างใต้นั้น ถ้าเราสามารถเจาะเข้าไปในน้ำแข็งได้เราอาจจะพบหนทางในการอาศัยอยู่เพื่อหลบเลี่ยงรังสีจากดวงอาทิตย์และจากดาวพฤหัสบดีเอง และถ้าเราทำได้เราจะสามารถสร้างที่อยู่จากฟองอากาศที่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งและน้ำได้ผ่านการใช้งานเรือดำน้ำที่จะทิ้งเครื่องเจาะและเริ่มการสร้างชุมชนลอยน้ำได้

7. ฐานเคลื่อนที่บนดวงจันทร์

สถานที่ที่เห็นได้ชัดว่าควรตั้งรกรากนั้นคือดวงจันทร์ทางนาซ่าพูดคุยเรื่องนี้มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว เดิมทีนั้นพวกเขาอยากสร้างฐานใต้ดวงจันทร์ แต่มาวันนี้ทางนาซ่าได้พิจารณาความคิดใหม่ในการใช้งานฐานที่เคลื่อนที่ได้บนล้อเพราะกลางคืนที่ยาวนานกว่า14วันบนดวงจันทร์ซึ่งจะหนาวเกินไปและมันจะเป็นไปไม่ได้ในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทำให้หลายๆสิ่งบนนั้นทำงาน ทางขั้วโลกของดวงจันทร์นั้นจะเป็นช่วงกลางวันแทบจะตลอดเวลา นั้นหมายถึงว่านาซ่าอาจจะสามารถคลุมฐานดวงจันทร์ได้ด้วยแผงโซล่าเซลล์ที่สร้างพลังงานอย่างต่อเนื่องได้ เมื่อฐานสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆได้เราก็สามารถย้ายตำแหน่งไปยังพื้นที่สว่างได้เพื่อหลบเลี่ยงความหนาวได้ด้วยและยังเอื้อต่อการที่จะทำภารกิจสำรวจและตั้งเหมืองในส่วนต่างๆของดวงจันทร์ได้อีก

6. Bernal Sphere

Bernal Sphere คือความคิดในการสร้างสถานีอวกาศที่สามารถดำรงชีพได้ด้วยตัวเองโดยมีทั้งฟาร์ม ปศุสัตว์ และสิ่งบันเทิงใจข้างในนั้น สถานีอวกาศจะมีการล้อมรอบไปด้วยวงแหวนที่จะค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆ โดยวงแหวนจะใช้งานได้ในหลายๆทางเช่นทำให้พืชพันธ์เติบโตโดยบางส่วนจะช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงได้และการหมุนยังช่วยสร้างแรงดึงดูดแบบบนโลกอีกด้วย อาจจะมีเรื่องแปลกสักหน่อยนั้นคือคุณจะอาศัยข้างในลูกโลกแทนที่ของบนเปลือกโลกซึ่งหมายถึงคุณจะเห็นภูมิประเทศเหนือคุณแทนที่การโค้งลงตามแบบฉบับของโลกนั้นเอง คุณจะเห็นคนอีกฝั่งนึงบนหัวของคุณได้จากข้างในลูกโลกนี้ แรงดึงดูดจะอ่อนกว่าบริเวณตรงกลางของลูกโลกซึ่งคุณสามารถบินได้เลย นักออกแบบคิดว่ามันคงจะสนุกมากถ้าสร้างตรงกลางของลูกโลกให้ไร้น้ำหนักได้เพื่อเหมาะในการฮันนีมูนนั้นเอง

5. ที่พักอาศัยรูปโดมบนดาวพุธ

ดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดอาจจะไม่ใช่ดาวที่ควรมองหาในการตั้งอาณานิคมมากนักเพราะมันคงร้อนมากถึง 427 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และยังมีช่วงกลางวันที่ยาวนานมากถึง 176 ถ้าเทียบกับเวลาบนโลกอีกด้วย การหมุนที่ช้าของดาวดวงนี้มอบข้อดีให้ในทางทฤษฎีเพราะทำให้เมืองบนล้อจะสามารถขยับเพื่อหลีกพ้นไปยังขอบเขตของแสงอาทิตย์ได้ที่ซึ่งอุณหภูมิไม่ต่างจากโลกเท่าไหร่นัก ตราบเท่าที่เมืองเคลื่อนที่ได้อยู่ทางตอนเหนือของดาวเราก็น่าจะใช้ชีวิตได้โดยการขุดน้ำแข็งมาใช้งานจากก็สูบน้ำเข้าไปในเครื่องสร้างไอน้ำเพื่อสร้างออกซิเจนผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง นี้จะช่วยให้เราดำรงชีวิตได้เองบนดาวที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด

4. อาณานิคมทะเลสาปมีเทนบนดาวไททัน

ไทนทันคือหนึ่งในดวงจันทร์ของดาวเสาร์เป็นสถานที่ที่แปลก ฝนมีเทนจากท้องฟ้าได้สร้างทะเลสาปที่ยิ่งใหญ่และแรงดึงดูดนั้นน้อยมากจนคุณเหมือนติดปีกและบินได้ซึ่งมันอาจจะเหมาะมากในการตั้งอาณานิคมของมนุษย์ แต่หนึ่งในภัยร้ายจากการอาศัยนอกอวกาศนั้นคือรังสีคอสมิกของกาแลคซี และไม่มีที่ใดบนระบบสุริยะจักรวาลที่ปลอดภัยจากสิ่งนี้กว่าบนดาวไททัน บรรยากาศบนดาวนี้มีไนโตรเจนมากซึ่งช่วยในการป้องกันรังสีคอสมิกนี้ได้มากกว่าบนโลกพร้อมกันกับมีการป้องกันเสริมจากสนามพลังแม่เหล็กจากดาวเสาร์อีกด้วย ดังนั้นถ้าเราหาวิธีการเอาชีวิตรอดบนพื้นผิวดวงดาวนี้ได้มันจะเหมาะมากในการดำรงชีพ พร้อมกันนี้กับข้อดีของการที่มีทะเลสาปมีเทนและอีเทนที่มอบพลังงานมหาศาลให้กับดาวนี้ ไม่ใช่เฉพาะพลังงานที่มีค่าเท่านั้นแต่มันยังใช้ในการทำงานด้านต่างๆของที่พักอาศัยแบบพลาสติกโดมที่พองออกโดยออซิเจนและไนโตรเจน คนงานจะสามารถยกของหนักได้โดยเหงื่อไม่ออกเลยเนื่องจากแรงดึงดูดเพียงแค่ 14 เปอร์เซ็นต์จากบนโลกเท่านั้น

3. กระจกอวกาศรอบๆ เซเรส

ดาวเคราะห์แคระที่ชื่อว่าเซเรสซ่อนในแถบดาวเคราะห์ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี แกนกลางของมันนั้นคือก้อนหินขนาดใหญ่ที่ลอยในอวกาศ แต่บนพื้นผิวเต็มไปด้วยน้ำแข็งซึ่งนั้นหมายถึงว่ามีน้ำที่ช่วยสนับสนุนชีวิตได้ มีเหตุผลให้เชื่อว่าเซเรสนั้นมีมหาสมุทรข้างใต้พื้นผิวน้ำแข็งแต่มันค่อนข้างหนาโดยเชื่อว่าหนามากถึง 100 กิโลเมตรเลยทีเดียวซึ่งยากมากในการตัดผ่านหรือละลายเข้าไป แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่บ้ามากไปแต่นักวิทยาศาสตร์อยากจะวางแผ่นกระจกขนาดใหญ่ให้โคจรรอบเซเรสเพื่อให้แสงพุ่งตรงมาบนพื้นผิวและหวังให้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ที่ -73 องศาเซลเซียสเพื่อให้มากพอในการละลายน้ำแข็งลงบ้าง ถ้าทำสำเร็จจะได้น้ำที่ออกมาจากมหาสมุทรที่จะสร้างออกซิเจนได้ซึ่งทำให้เป็นไปได้ในการตั้งถิ่นที่อยู่ลอยน้ำบนดาวดวงนี้ได้

2. เหมืองฮีเลียมบนดาวยูเรนัส

ดาวยูเรนัสอาจจะไม่ใกล้ที่สุดกับดาวของเราก็จริงแต่เราก็คิดในเรื่องการตั้งอาณานิคมบนนั้นก็เพราะว่าดาวยูเรนัสเต็มไปด้วยฮีเลียม3ซึ่งเป็นแก๊สที่เกือบจะหมดไปจากโลกของเราแล้ว ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ก็เต็มไปด้วยฮีเลียม3เช่นกันแต่มันเป็นไปไมได้ในการอาณานิคมที่นั้น เทียบกับทั้งสองดวงดาวแล้วดาวยูเรนัสเหมาะมากกว่าในการตั้งอาณานิคม แผนการคือสร้างบอลลูนลมร้อนบนชั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแก๊ส จากตรงนั้นเราจะสามารถดูดเอาแก๊สที่มีและส่งมันไปยังสถานีอวกาศที่โคจรรอบดาวได้ และถ้าการตั้งอาณานิคมล้มเหลวเราก็ยังได้รับพลังงานมหาศาลกลับมาซึ่งมากพอในการใช้งานกับทั้งโลกได้

1. ป่าเรดวูดแห่งดาวอังคาร

ปฎิบัติการในการตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารกำลังเดินต่อไป ทาง SpaceX ได้ร่างแผนการของพวกเขาในการตั้งระบบขนส่งระหว่างดาวเคราะห์ขึ้นเพื่อส่งฝูงบินอวกาศขึ้นไปสู่ดาวอังคารและกลับมาทุกๆ 26เดือน พวกเขายังไม่เผยถึงรูปร่างของอาณานิคมนี้ว่ามันจะเป็นเช่นไรสิ่งที่ Elon Musk ได้แบ่งปันแก่เรานั้นคือ“เมืองดาวอังคาร”จะครอบด้วยโดมแก้วที่ดูเหมือนเป็นแผนจากทีมที่ MIT ที่ใช้ชื่อว่า“ป่าเรดวูด”ความคิดของพวกเขาคือการคลุมดวงดาวด้วยโดมแก้วเชื่อมต่อกันด้วยระบบเครือข่ายทางอุโมงค์ใต้ดินที่ทำงานเหมือนรากต้นไม้ อุโมงค์จะต่อท่อเพื่อนำน้ำใต้ดินและดินกลับขึ้นมาที่โดมเพื่อนำน้ำมาใช้ในการสร้างออกซิเจนและใช้ในฟาร์มไฮโดรพอนิกส์ น้ำยังใช้ในการเติมเซลล์ด้านนอกของโดมเพื่อปกป้องผู้คนจากรังสีดวงอาทิตย์ มันเป็นไอเดียที่เข้าท่าและเราอาจจะได้เห็นมันในช่วงชีวิตของเราก็เป็นได้ ถ้าแผนของ SpaceXทำงานได้ดีเราอาจจะได้เห็นการตั้งอาณานิคมกลุ่มแรกบนดาวอังคารในไม่ช้านี้

ที่มา : listverse